Praphuttha Chinnarat
Praphuttha Chinnasri
Buddha statue is enshrined in the ordination hall
Standing Buddha statue is called Pra Attharos
The 1st zone of the temple
Buddha statues sit along the corridor
Buddha statue in the attitude of leaving for nirvana
Honey baked banana costs 25 baht a plastic box
Wat Prasri Rattana Mahathat
Update : November 30, 2022
This temple is always a popular destination for both foreigners and Thai toursits. Here, there are a lot of things to see, but one thing that shouldn't be missed is the Buddha statue named "Praphuttha Chinnarat".
It's considered to be the most beautiful Buddha statue in Thailand and, as a result, other temples in Thailand made the replica ones, for example Marble Temple (Wat Benchamabophit) in Bangkok.
The temple's full name is "Wat Prasri Rattana Mahathat Woramahaviharn". I bet you can't remember its full name! and most Thai people prefer calling its nickname "Wat Yai" or "Wat Prasri".
According to historical records and Sukhothai inscriptions, we believe the temple was built before the Sukhothai period by King Praya Lithai, who had great faith in Buddhism.
The king then odered to cast three big Buddha statues such as Praphuttha Chinnarat, Praphuttha Chinnasri and Prasri Satsada to be enshrined in the newly built temple. In my eyes, the temple was built for a long time, but it's still in good condition.
Temple is devided into 2 zones
The big temple is devided into 2 main zones by its wall.
The 1st zone : you will see the three Buddha statues as I mentioned above. Each of them is enshrined in the same area but in a separate buildings.
The Buddha statue named "Praphuttha Chinnarat" is enshrined in the main viharn, highly decorated with crystal chandeliers, beautiful colums, and mural paintings. This makes the viharn look great and catches tourists' eyes.
The 2nd zone : after walking out of the wall of the 1st zone, you will see washrooms in front of you and a white stupa on the left. Next to the white stupa is a white building, that enshines the Buddha statue in the attitude of leaving for nirvana.
Walking a little farther, you will see the ordination hall with a beautiful big Buddha statue, and a famous standing Buddha statue named Pra Attharos.
All right, for those who like shopping. Please look at the building near the entrance-exit door, just 3 mins walk from the ordination hall. The building with many shops sells souvenirs, dried fruits, candied fruits, etc. But the most popular item is honey baked banana, that costs 25 baht a plastic box.
วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ
ชื่อเต็มของวัดนี้คือ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร ชาวบ้านจะเรียกสั้นๆ ว่า "วัดใหญ่" ถือเป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองของ จ.พิษณุโลก ภายในวัดประดิษฐานพระพุทธชินราช ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็น "พระพุทธรูปที่งดงามที่สุดในประเทศไทย" และส่งผลให้หลายๆ วัดในประเทศไทย สร้างพระพุทธชินราชจำลองขึ้นมา ยกตัวอย่างเช่น วัดเบญจมบพิตร ที่กรุงเทพฯ
สันนิษฐานว่า วัดถูกสร้างขึ้นก่อนสมัยสุโขทัย เพราะได้พบศิลาจารึกสุโขทัย ซึ่งกล่าวว่า "พ่อขุนศรีนาวนำถมทรงสร้างพระทันตธาตุสุคนธเจดีย์" นอกจากนี้ในพงศาวดารเหนือยังได้กล่าวว่า "ราวพุทธศักราช 1900 พระเจ้าศรีธรรมไตรปิฎก (พระมหาธรรมราชาลิไท) ซึ่งเป็นกษัตริย์ที่มีศรัทธาในพุทธศาสนาเป็นอย่างมาก พระองค์ได้สร้างวัดพระศรีรัตนมหาธาตุขึ้นในฝั่งตะวันออกของแม่น้ำน่าน มีพระปรางค์อยู่กลาง มีพระวิหาร 4 ทิศ" ต่อมาในปี พ.ศ.2458 วัดได้รับการยกขึ้นเป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดวรมหาวิหาร
สิ่งที่ห้ามพลาดเมื่อมาเยือนวัดนี้ คือ "พระพุทธชินราช" ซึ่งถือเป็นพระพุทธรูปคู่เมืองพิษณุโลก ประดิษฐานอยู่ในวิหารที่ได้รับการตกแต่งอย่างสวยงาม เสาแต่ละต้นมีลวดลายที่งดงาม รวมถึงภาพจิตรกรรมฝาผนัง และโคมไฟระย้าด้านบนเพดาน ทำให้วิหารแห่งนี้ดูงดงามและมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่น สามารถสะกดสายตาผู้มาเยือนได้อย่างดีเยี่ยม
นอกจากนี้ที่วัดยังมีพระพุทธรูปที่งดงามอีกสององค์ ชื่อว่า พระพุทธชินสีห์ และพระศรีศาสดา (เราไม่ได้ถ่ายรูปพระศรีศาสดามานะคะ เพราะมีข้อจำกัดด้านเวลา) นอกจากนี้ยังมี พระเหลือ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปขนาดเล็ก อยู่ใกล้ๆ กับวิหารของพระพุทธชินราช
หลังจากกราบพระพุทธรูปทั้งสามองค์ ให้เดินผ่านกำแพงออกมา ด้านเราหน้าจะเป็นห้องน้ำ ให้หันมาทางซ้าย จะพบเจดีย์สีขาว และสิ่งปลูกสร้างอีกมากมาย โดยเริ่มจาก
1.วิหารพระเจ้าเข้านิพพาน ภายในวิหาร เราจะเห็นโลงศพที่มีเท้าโผล่ออกมา และมีพระสงฆ์นั่งล้อมรอบ
2.พระอุโบสถ ภายในประดิษฐานพระประธานขนาดใหญ่ (ลักษณะคล้ายพระชินสีห์) ที่ผนังยังมีภาพเขียนที่แสดงเรื่องราวของสมเด็จพระนเรศวร ในด้านการตกแต่งวิหารยังคงเอกลัษณ์เดิม ซึ่งดูคล้ายกับวิหารของพระพุทธชินราช
3.พระอัฏฐารส (พระยืน)
เอาล่ะ สำหรับใครที่ชอบซื้อของ ตามมาทางนี้ ไม่ไกลจากพระยืน ใกล้ๆ ประตูทางเข้า-ออกของวัด เราจะเห็นอาคารซึ่งภายในจะมีร้านค้ามากมาย สินค้าส่วนใหญ่เป็นของกิน แต่สินค้ายอดนิยมของที่นี่ คือ กล้วยตากและกล้วยอบน้ำผึ้ง ซึ่งราคาก็ถูกมากและอร่อยด้วย ราคากล่องละ 25 บาท เท่านั้นเอง