The photo of Luang Pu Toh, the famous former abbot
Luang Pu Toh's body is in a coffin
Inside the previous ordination hall
Inside the current ordination hall
Thai amulet is called Phra Phim Sukato
Super mixture stupa
Wat Khamphang
Update : July 20, 2022
It's commonly known as Wat Luang Pu Toh. LP Toh was the abbot, who was very famous during his time. Even today he is regarded as one of the top guru monks in the eyes of his devotees.
He passed away on July 27, 1982. His body now rests in a glass coffin on the 2nd floor of a white building, which is open to the public every day.
Inside the temple, there is nothing much to see except stupas. As for the ordination hall, you will see two ordination halls but they're closed. In general, a temple contains only one ordination hall. But sometimes the new one was built to replace the old one for religious reasons.
Monk Biography
Luang Pu Toh was the 2nd abbot, passed away at the age of 86 in 1982. LP Toh and LP Pan of Wat Bang Nom Kho were good friends, so they often shared knowledge with each other.
At a young age, he learned Buddhism from Luang Pho La, Wat Phosri. When he was 19 years old, he was ordained as a novice at Wat Dongyang and then moved to other temples. Later in 1949, he moved to Wat Khamphang and was appointed as the abbot.
It was said that LP Toh had ability to see the future. One day, a man from another city came to meet LP Toh and asked him to bless hundreds of amulets. After blessing, that man gave some of the amulets to the temple.
His disciple wanted to get one of these amulets. But LP Toh said, "these amulets are not so good as those we call Phra Phim Sukato".
LP Toh added "that man will sell all the amulets". Shortly after, that man tried to sell the amulets as LP Toh had said, but he didn't sell any amulets.
As the photo above, Phra Phim Sukato is the amulet everyone wants to own - it has power to protect the wearer from physical danger.
Another event that made the temple famous overnight. In the past, a policeman from Ang thong province came to the temple to buy Phra Phim Sukato, and shared his miracle experience.
He said that while he and his friends were rounding a thief up, the thief suddenly disappeared. They tried to find the thief but failed. He then prayed that if the thief had something holy to protect him, let him pay back for what he had done.
A few minutes later, they saw the light reflect from the bush, that the thief hid behind. After the thief was arrested, they found Phra Phim Sukato around his neck.
วัดกำแพง
วัดนี้ห่างจากตลาดอินทร์บุรี แค่ 3 กม. สันนิษฐานว่าเป็นวัดเก่าสมัยอยุธยา ส่วนสิ่งปลูกสร้างในวัดก็มี อาคาร 2 ชั้น ซึ่งมีร่างท่านอยู่ในโลงแก้ว อาคารนี้ เปิดให้ประชาชนเข้ามากราบไหว้ร่างท่านได้ทุกวัน ส่วนอุโบสถหลังใหม่และหลังเก่า (ท่านไม่ได้เปิดทุกวัน) ดังนั้นเพื่อนๆ ที่มา อาจไม่ได้เข้าไปในอุโบสถนะคะ ส่วนรอบๆ วัด ก็จะมีเจดีย์รูปทรงแปลกๆ หน่อย
เมื่อมาถึงวัดกำแพงแล้ว ก็ควรแวะไปกราบ หลวงพ่อบุญ วัดท่าอิฐ ด้วย เนื่องจากท่านทั้งสองเป็นกัลยาณมิตรกัน ไปมาหาสู่กันบ่อย และพวกท่านยังมีอาจารย์คนเดียวกัน นั่นก็คือหลวงพ่อลา วัดโพธิ์ศรี
ประวัติหลวงปู่โต๊ะ
หลวงปู่โต๊ะ ฉนฺโท หรือ พระครูปราการกิตติคุณ เจ้าอาวาสรูปที่ 2 ท่านถือเป็นอีกหนึ่งเกจิดังในสิงห์บุรีที่เชี่ยวชาญด้านไสยเวท ในอดีตท่านกับ หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค จ.อยุธยา ได้ไปมาหาสู่กันบ่อย จึงได้มีการแลกเปลี่ยนวิชากัน
ในวัยเด็กนั้น ท่านได้เรียนวิชากับหลวงพ่อลา วัดโพธิ์ศรี เมื่ออายุได้ 19 ปี ท่านได้บรรพชาเป็นสามเณรที่วัดดงยาง อ.อินทร์บุรี แล้วย้ายไปอยู่ที่วัดโพธิ์ลังกา กับ วัดท่าอิฐ จนกระทั่งปี พ.ศ.2492 ท่านได้มาจำพรรษาที่วัดกำแพง และได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาส
หลวงพ่อโต๊ะ ท่านเป็นพระเกจิที่รู้เหตุการณ์ล่วงหน้า สมัยก่อนมีคนจากต่างจังหวัดนำพระจำนวนหลายร้อยองค์มาให้ท่านปลุกเสก โดยหลังจากปลุกเสก เขาได้แบ่งให้กับทางวัดจำนวนนึง ขณะนั้นเองลูกศิษย์ของท่านคนนึงอยู่ในเหตุการณ์ ก็อยากจะได้พระมาบูชา หลวงปู่โต๊ะจึงได้บอกกับลูกศิษย์คนนั้นว่า "เขาจะนำพระเหล่านี้ไปขาย พระเหล่านี้สู้ พระรุ่นสุคโต ของเราไม่ได้หรอก" ต่อมาคนๆ นั้นก็นำพระไปขายจริง แต่กลับขายไม่ได้เลยสักองค์เดียว
ปาฏิหาริย์พระสุคโต พระองค์นี้เราไปขอถ่ายรูปของจริงมาจากคนๆ นึง ซึ่งเขาได้เล่าให้ฟังว่า เขาได้ไปฉีดยาที่โรงพยาบาลใน จ.สิงห์บุรี แต่ปรากฏว่าฉีดยาไม่เข้า ไม่ว่าจะฉีดตำแหน่งไหน สุดท้ายเขาได้นำสร้อยพระที่ห้อยคอออกมา เท่านั้นแหละพยาบาลสามารถฉีดยาเข้าเส้นได้เลย
นอกจากนี้ยังมีอีกเหตุการณ์นึงที่ทำให้พระสุคโตดังไปทั่วประเทศ จนผู้คนต่างเดินทางมาวัดกำแพงเพื่อหาเช่าพระรุ่นนี้ เพราะพระรุ่นนี้มีพุทธคุณด้านแคล้วคลาด ในอดีตได้มีตำรวจท่านนึงมาจาก จ.อ่างทอง มาขอเช่าพระสุคโต นายตำรวจได้เล่าว่า ขณะที่เขากับเพื่อนตำรวจอีกหลายนายล้อมจับโจรอยู่ จู่ๆ โจรก็หายตัวไป หาเท่าไรก็ไม่เจอ เขาจึงได้อธิษฐานว่า "หากมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์รักษาโจรอยู่ จงปล่อยให้โจรได้ชดใช้กรรมชั่วที่ได้ก่อเอาไว้เถิด" ทันใดนั้นจึงได้เห็นแสงสะท้อนจากดงหญ้า ตำรวจจึงได้เข้าไปค้น แล้วพบว่าโจรหลบอยู่ในกอหญ้า เมื่อค้นตัวโจรจึงได้พบว่าโจรห้อยพระสุคโตอยู่
ส่วนอีกเหตุการณ์นึงเกิดกับลูกศิษย์ของท่าน ซึ่งท่านรู้ว่าลูกศิษย์ของท่านมีเคราะห์กรรม ท่านจึงได้ให้ลูกศิษย์คนนี้ห้อยพระพิมพ์ลีลา วันนึงลูกศิษย์ท่านไปเดินตลาด เขาโดนยิงด้วยปืนลูกซองเต็มหลังจนเขาล้มหัวทิ่ม แต่ปืนยิงไม่เข้า พอจะยิงซ้ำอีกปรากฏว่าปืนแตกใส่หน้าคนยิง ขณะนั้นหลวงปู่โต๊ะอยู่ที่วัด ท่านได้พูดกับเณรที่วัดว่า ลูกศิษย์ท่านถูกยิงแต่ไม่เป็นไร เดี๋ยวก็กลับมา
นอกจากนี้ยังมีคนได้ลองนำเหรียญรุ่นแรกของหลวงปู่โต๊ะ ไปทดลองยิงด้วยปืนถึง 20 นัด ปรากฏว่ายิงไม่ถูกเลยสักนัดเดียว มีอีกรายเขาห้อยเหรียญรุ่นนี้และขับรถยนต์ไปประสบอุบัติเหตุ รถพังยับเยินแต่คนขับปลอดภัย
หลวงปู่โต๊ะท่านทราบเหตุการณ์ล่วงหน้า ท่านรู้แม้กระทั่งวันมรณภาพของตนเอง และก่อนท่านจะมรณภาพ ท่านได้สั่งลูกศิษย์เอาไว้ว่า "ไม่ให้เผาร่างท่าน" เราอดนึกถึงหลวงพ่อจวน วัดหนองสุ่ม ไม่ได้ หลวงพ่อจวนก็บอกลูกศิษย์ของท่านไว้เช่นเดียวกัน แต่ด้วยเหตุใดมิทราบได้ มีพระชั่วบางรูปได้สั่งให้เผาร่างท่าน เผานานเป็นชั่วโมง แต่ร่างท่านไหม้แค่ครึ่งเดียว ส่วนด้านหลังของท่านที่มีรอยสักไม่ไหม้
สำหรับวัตถุมงคลที่ท่านได้สร้างไว้มีมากมาย เช่น ตะกรุด ผ้ายันต์ ผ้าประเจียด เหรียญ พระเครื่อง ฯลฯ หลวงปู่โต๊ะมรณภาพ 27 กรกฎาคม 2525 สิริรวมอายุ 86 ปี
อาจารย์หลวงปู่โต๊ะ
1.หลวงพ่อลา วัดโพธิ์ศรี จ.สิงห์บุรี
2.หลวงพ่อเภา วัดถ้ำตะโก จ.ลพบุรี
3.หลวงพ่อโพธิ์ วัดกำแพง จ.สิงห์บุรี (พ่อของหลวงปู่โต๊ะ)