Update : August 22, 2022

Temple is located between Wat Pho Langka (Bang Krabue) and Wat Prachotikaram, originally called Wat Bang Krabue Nue.

It's unclear when the temple was built. There is only one story that was told from generation to generation. The story says that a monk on pilgrimage, whose name is Luang Pho Rueng, travelled to Wat Sathit Wattanaram and stayed there. And after that, LP Rueng's story was missing from history.

The magnet that attracts travellers to come here is a 100-year-old Buddha statue. The old Buddha statue was discovered in a building, that is called viharn in the temple.

Later, the Buddha statue was named after the monk on pilgrimate, Luang Pho Rueng. And it's enshrined in the same place where it was found, next to the ordination hall.

The ordination hall is decorated with thousands of pieces of coloured glass, glittering with the light. Its windows and doors were beautifully carved.

วัดสถิตย์วัฒนาราม

วัดนี้ตั้งอยู่ระหว่าง วัดโพธิ์ลังกา (บางกระบือ) และ วัดประโชติการาม แต่เดิมวัดนี้มีชื่อ วัดบางกระบือเหนือ ไม่มีหลักฐานว่าสร้างเมื่อใด มีแต่คำบอกเล่าต่อๆ กันมาว่า มีพระธุดงค์ชื่อว่าหลวงพ่อเรืองมาปักกลดและอยู่ที่วัดนี้ หลังจากนั้นประวัติวัดก็ขาดหายไป

สิ่งที่ดึงดูดนักเดินทางให้เข้ามาในวัดนี้ก็คือ พระพุทธรูปปางมารวิชัย หน้าตักกว้าง 35 นิ้ว อายุ 100 กว่าปี ชาวบ้านเรียกว่า "หลวงพ่อเรือง" ซึ่งประดิษฐานอยู่ในวิหารมาเป็นเวลานาน ภายในวิหารยังมีพระพุทธรูปเก่าแก่อีกหลายองค์ รวมถึงรูปหล่อเจ้าอาวาสรูปแรกของวัด คือ พระอธิการใช้ สจวญาโณ

ด้านข้างวิหารหลวงพ่อเรือง คือ อุโบสถ ซึ่งถูกประดับด้วยกระจกสี ส่องแสงวิบวับท่ามกลางแสงแดด ส่วนที่เพดานก็ตกแต่งได้อย่างสวยงามและดูมีเอกลักษณ์ดี นอกจากนี้ประตูและหน้าต่างทุกบานยังถูกแกะสลักอย่างสวยงาม

*ถ้าใครชอบอุโบสถที่มีงานไม้แกะสลัก เราแนะนำให้ไป วัดโบสถ์ (ท่าช้าง) เป็นวัดที่เราชอบมากๆ เลย รับรองไม่ผิดหวังแน่นอน

นอกจากนี้ยังมีพระพระพุทธรูปเก่าแก่ให้ชมอีก 2 ที่ ภายในวัด คือ ที่ศาลาด้านข้างติดกับวิหารหลวงพ่อเรือง และที่ศาลาใกล้กับประตูหลังวัด (ฝั่งที่ติดแม่น้ำเจ้าพระยา)