Update : September 21, 2023

This temple is located in Taling Chan district and encircled by two canals. So, the temple is accessible only by boat. Normally, visitors hire a speed long-tailed boat from Taling Chan Floating Market to Wat Koh - It's a fun journey that will never be forgotten.

Local people walk across a small bridge to Wat Koh every big Buddhist day in order to offer food to monks. Within the temple compound, you will see many Buddha statues. But the one whom local people have a lot of respect for is Luang Pho Dum. The Buddha statue from the Ayutthaya era is enshrined in an old concrete building (a sermon hall with a Chinese style roof).

A nearby building is the ordination hall, which was painted yellow-orange. It was built in 1978 when the famous abbot, Luang Pu Thong, was alive. When I walked in there, what totally grabbed my attention was the paintings, not the Buddha statues. 

And the last one is a one-story wooden house located behind the ordination hall. There is Luang Pu Thong's body inside - his body is kept in a glass coffin and worshipped by faithful devotees. 

He passed away in 2009 that was 14 years ago, and everything has changed since then. There were a lot of people traveling to the temple during his time, although the temple is hidden from the eyes of the tourists. 

Nowadays, only local people, some devotees and few foreign tourists visit the temple, so donation from local people isn't enough to restore the temple, If you want to support Buddhism, you can buy Thai amulets here. 

Luang Pu Thong's Biography

Luang Pu Thong Wattano was the abbot and famous monk. Most of the people in Bangkok respected him very much, even Khun Phan who was a legendary police did and often visited LP Thong.

The temple became famous, after his talismans that were made in 1978 were given to donors. And some donors tested its power by firing a bullet at his amulet, but it turned out that the gun misfired. 

After this news spread on social media, most people flocked to the temple to buy his amulets and talismans. 

วัดเกาะ

วัดเกาะตั้งอยู่แขวงบางเชือกหนัง เขตตลิ่งชัน วัดถูกล้อมรอบโดยคลองบางน้อย และคลองบางเชือกหนัง ซึ่งสายน้ำสองสายจะไหลออกไปคลองชักพระ ทำให้วัดนี้กลายเป็นเกาะกลางน้ำ การมาเที่ยววัดนี้ต้องมาทางเรือเท่านั้น

เพื่อนๆ คงสงสัยว่าจะมาที่นี่ได้อย่างไร นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่ไปเที่ยวตลาดน้ำตลิ่งชัน เขาจะลงเรือหางยาวที่นั่นแล้วให้คนเรือแวะจอดที่วัดเกาะ เพื่อนๆ จะได้ชมบรรยากาศริมคลอง ได้เห็นบ้านไม้เก่าๆ สองข้างทาง ซึ่งบรรยากาศก็จะคล้ายๆ กับตลาดน้ำอัมพวาเลย ฟินเว่อร์

ในช่วงวันพระใหญ่ ชาวบ้านจะเดินข้ามสะพานหน้าวัดมาทำบุญที่วัดเกาะ ภายในบริเวณวัดจะมีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านให้ความเคารพ นามว่า "หลวงพ่อดำ" ประดิษฐานอยู่ในวิหาร (อาคารปูน) ซึ่งเป็นพระที่ อยู่คู่กับวัดมาตั้งแต่สมัยอยุธยา

นอกจากหลวงพ่อดำแล้ว ในวิหารยังมีรูปหล่อสมเด็จโต หลวงปู่ทวด อ้ายไข่วัดเจดีย์เมืองนครศรีธรรมราช และรอยพระพุทธบาท 

ใกล้ๆ กันมีอุโบสถหลังใหม่สีเหลืองส้ม ภายในประดิษฐานองค์พระประธาน นามว่า "หลวงพ่อเพชร" และ "หลวงพ่อโสธร" ภายในมีภาพวาดพระพุทธรูป วัดอรุณ และพญานาค ซึ่งเป็นภาพวาดที่เราชอบมาก ทั้งสีสันและลวดลายดูแปลกตาจากวัดอื่น

ส่วนด้านหลังอุโบสถ  จะมีอาคารไม้หลังเล็กๆ ชั้นเดียว ภายในมีร่างอดีตเกจิดังของวัด นามว่า "หลวงปู่ทอง วัฑฒโน" ร่างของท่านไม่เน่าเปื่อย เมื่อมาถึงวัดแล้ว อย่าลืมแวะมากราบท่านสักหน่อยนะคะ

หากเพื่อนๆ ท่านใด ได้มีโอกาสแวะมาเที่ยวที่นี่ และอยากทำบุญเช่าพระ เราแนะนำให้ทำบุญที่วัดเกาะ เพราะวัดอยู่ห่างไกลชุมชนมาก การเดินทางมาที่นี่ก็ค่อนข้างลำบาก ดังนั้นคนที่มาทำบุญก็มีแค่ชาวบ้าน 

ประวัติหลวงปู่ทอง

หลวงปู่ทอง วัฑฒโน ถือเป็นเกจิดัง แม้แต่ ขุนพันธรักษ์ราชเดช ก็ยังนับถือท่านมาก และไปมาหาสู่หลวงพ่อทองอยู่บ่อยครั้ง ส่วนพระและของขลังที่ท่านสร้างก็มีอยู่พอสมควร เช่น เหรียญสิงห์ทองปราบศึกและสีผึ้ง สร้างเพื่อเป็นที่ระลึกในการสร้างอุโบสถวัดเกาะ ปี 2521 ฯลฯ

ทีแรกหลวงปู่ทองจะสร้างเป็นพระสมเด็จ แต่พอท่านนั่งสมาธิก็ได้เห็นภาพไฟไหม้ จึงอธิษฐานขอเปลี่ยนมาสร้างพระขุนแผนแทน ซึ่งในนิมิตท่านได้เห็นภาพของท้องฟ้าสว่างไสว ท่านจึงตัดสินใจสร้างพระขุนแผน 

วัตถุมงคลของท่านได้รับความนิยมอย่างมาก หลังจากที่มีคนเคยนำพระของท่านไปทดลองยิง และสรุปว่ายิงไม่ออก หลวงปู่ทองใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย ไม่ยุ่งเกี่ยวกับกับทางโลก ดังนั้นท่านจึงเลือกที่จะใช้ชีวิตอยู่ในวัดเกาะ ซึ่งสมัยก่อนนั้น วัดแทบจะถูกตัดขาดจากโลกภายนอกอย่างสิ้นเชิง หลวงปู่ทองมรณภาพ วันที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2552

อาจารย์ของหลวงปู่ทอง

1.หลวงพ่อคล้าย วัดสวนขันธ์ 

หลวงปู่ทองเคยพูดให้ลูกศิษย์ฟังว่า ตอนท่านไปเรียนวิชากับหลวงพ่อคล้าย ท่านได้ถามหลวงพ่อคล้ายว่า "หลวงพ่อครับ ที่เค้าว่ากันว่า หลวงพ่อมองรถแล้วรถหยุดนี่จริงหรือป่าวครับ" หลวงพ่อคล้ายก็ตอบว่า "มันก็พูดกันไป" ทันใดนั้นก็มีรถสีขาวกำลังวิ่งผ่านมา หลวงพ่อคล้ายจึงหันไปเพ่งมอง และรถสีขาวก็หยุดวิ่งทันที! 

2.หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง 

ท่านโดนหลวงพ่อแช่ม ลองวิชา จนหลวงพ่อแช่มเห็นว่ามีวิชาใช้ได้ จึงยอมสอนให้ วิชาหลักที่ได้เรียนมา คือการลงตะกรุ การทำกรรมฐาน และวิชาย่นระยะทาง

3.หลวงพ่อโป๋ วัดวังแดงเหนือ

สมัยก่อนหลวงพ่อโป๋ ดังมากใน จ.อยุธยา ตอนนั้นท่านไปบอกหลวงพ่อโป๋ว่า "จะมาขอเรียนวิชาสาริกาจับปากโลงครับ" หลวงพ่อโป๋ ก็บอกว่า "เออ! ถ้าแกเรียนได้ข้าก็สอนได้"

การเรียนวิชานี้ ท่านต้องเข้าไปนอนในโลงศพจริงๆ ทั้งร้อนทั้งคัน และนอนตั้งแต่เช้ามืด โดยหลวงพ่อโป๋นั่งจุดตะเกียงคุมอยู่ และต้องนอนภาวนา รอจนนกมาเกาะปากโลงจึงจะสำเร็จ 

4.หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก

สมัยก่อนคงไม่มีใครไม่รู้จัก หลวงพ่อจง ท่านทำของขลังให้ทหารไทยพกติดตัว ขณะไปรบในสงครามอินโดจีน แม้ว่าทหารไทยจะถูกยิง แต่กระสุนนั้นก็ทำอะไรทหารไทยไม่ได้ จนทหารไทยได้รับสมญานามว่า "ทหารผี ฆ่าไม่ตาย" 

เคยมีคนนำตะกรุดของหลวงพ่อจงไปลองยิงในเขตวัด ปรากฏว่ายิงไม่ออก หลังจากที่หลวงปู่ทองได้เรียนวิชานี้กับหลวงพ่อจง ท่านก็ได้ ทำเหรียญรุ่นแรกออกมา มีชาวบ้านแถวนั้น นำไปทดลองยิง และยิงไม่ออก ชาวบ้านละแวกนั้นจึงศรัทธาหลวงปู่ทองมาก

นอกจากนี้ยังมีอีกเหตุการณ์นึง ตอนที่ท่านไปเรียนวิชากับหลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก ขณะที่กำลังนั่งคุยกันอยู่ หลวงพ่อจงก็คุยไป เอานิ้วเคาะพื้นไป พอเผลอๆ ร่างของหลวงพ่อจงก็กลายเป็นเสือลายพาดกลอนไปเลย ท่านว่าอภิญญาสมาบัติของหลวงพ่อจงสูงมาก

5.หลวงพ่อพริ้ง วัดบางประกอก 

6.หลวงพ่อลี วัดอโศการาม

7.หลวงพ่อวัดชะเมา นครศรีธรรมราช 

8. หลวงพ่อโอภาสี อาศรมบางมด

9. สมเด็จพระสังฆราชอยู่ ญาโณทัย 

10. หลวงพ่ออี๋ วัดสัตหีบ 

11.หลวงพ่อชม อนังคโณ วัดเขานันทาสุภาพ 

12.หลวงพ่อวงศ์ วัดปริวาส