Update : July 7, 2022

It's located in In-Buri district, about 3.5km away from Wat Bot and In-Buri national museum and 650m from Wat Phosri. Presumably, it was built as the first temple in In-Buri district during the early Rattanakosin period.

In the old days, many famous people visited this temple :

-During King Rama6's visit to rural areas, the king stopped to have meal in a temple waterfront pavilion before continuing to travel.

-The Supreme Patriarch of Wat Ratchabophit marked a foundation of the new temple - the Foundation Stone Laying Ceremony or Thai people call "Phiti Wang Sila Lerk".

There are two interesting structures in the temple. For example, a stupa with twelve indented corners and a small building (viharn) covered with beautiful mural paintings. But the highlight is the paintings.

The mural paintings were painted by a local painter in the reign of King Rama 4. The paintings always draw attention of visitors, not just because of their beauty, but because they have played a big role in transmission of Thai culture and Thai beliefs from ancient times to the present day - The paintings depict not only the Buddha's life but also culture of ancient society at different levels.

It's said that "It's the best example of the powdered color mural paintings" in Singburi, that have survived to this day. If you are a painting lover, you must vitist Wat Muang and Wat Phra Prang Muni.

วัดม่วง

วัดม่วง ตั้งอยู่ อ.อินทร์บุรี ห่างจาก วัดโบสถ์และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติอินทร์บุรี ประมาณ 3.5 กม. และห่างจาก วัดโพธิ์ศรี แค่ 650 เมตร สันนิษฐานว่าสร้างในช่วงรัตนโกสินทร์ตอนต้น และเป็นวัดแรกของ อ.อินทร์บุรี

ในอดีตนั้น ร.6 ได้เสด็จมาประทับเสวยพระกระยาหารที่ศาลาของวัดนี้ ต่อมาในปี พ.ศ.2521 สมเด็จพระสังฆราช วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ได้เสด็จมาวางศิลาฤกษ์ และในปี พ.ศ. 2526 สมเด็จพระนางเจ้า พระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จมาทรงเปิดพระนามาภิไธย่อ "ส.ก" ที่ได้พระราชทานให้แก่วัด ดังนั้นวัดนี้จึงถือเป็นวัดที่มีความสำคัญอย่างมาก

สิ่งปลูกสร้างในวัดที่น่าสนใจ ได้แก่ เจดีย์ย่อมุมไม้สิบสอง และวิหาร ซึ่งภายในวิหารมีภาพจิตรกรรมฝาผนัง กล่าวกันว่า ภาพจิตรกรรมฝาผนังที่ดีที่สุด ใน จ.สิงห์บุรี อยู่ที่นี่ โดยด้านหน้าและด้านหลังของวิหาร ประดับด้วยถ้วยชามแบบต่างๆ ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัย

ภาพจิตรกรรมฝาผนังเขียนด้วยสีฝุ่น เป็นฝีมือช่างพื้นบ้าน คาดว่าน่าจะเขียนในสมัย ร.4 โดยเป็นเรื่องเกี่ยวกับ พุทธประวัติ วิถีชีวิตความเป็นอยู่และวัฒนธรรมของคนในระดับชั้นต่างๆ ในสมัยก่อน

ในความคิดเรานะ ภาพจิตรกรรมของวัดม่วงนี่ถือว่าสุดยอดจริง อีกวัดที่มีภาพจิตรกรรมฝาผนังสมบูรณ์และ สวยงามไม่แพ้กันคือ วัดพระปรางค์มุนี (เป็นภาพจิตกรรมอายุ 103ปี)

ประวัติหลวงพ่อเอาะ

หลวงพ่อเอาะ (พระครูอินทวุฒาจารย์) เป็นคนไทยเชื้อสายลาว อดีตเจ้าอาวาสรูปที่ 9 ของวัด ท่านเป็นอีกหนึ่งพระเกจิดังของ จ.สิงห์บุรี ที่เชี่ยวชาญในไสยเวททุกแขนง มีวาจาสิทธิ์ และนอกจากนี้ท่านยังเรียนวิชาแพทย์แผนโบราณอีกด้วย

สิ่งนึงที่ทำให้วัดเป็นที่รู้จักของบุคคลทั่วไป คือ วัตถุมงคลของหลวงพ่อ โดยท่านได้สร้างพระเครื่องเนื้อผงพิมพ์ต่างๆ รวมถึงตะกรุด ผ้ายันต์ โดยสร้างครั้งแรกประมาณ พ.ศ.2485 (ช่วงสงครามอินโดจีน) เป็นเหรียญรูปใบเสมา โดยมีอักขระที่เรียกว่า "นะกัปปภัทร์" เป็นเนื้อทองแดง มีพุทธคุณสูงด้านแคล้วคลาด คงกระพันชาตรี