Update : August 23, 2022

Temple had gradually become known, after word spread that a small Buddha statue, Luang Pho Hin, had performed miracles for those who believe in him.

Do you believe in miracles? If so, you must vitsit Wat Daowadung.

Luang Pho Hin's story

Luang Pho Hin was formerly enshrined in a deserted temple, not far from Wat Daowadung and Wat Rat Prasit. One day, villagers from the two temples found LP Hin, and each side wanted to move LP Hin to his temple.

They all moved LP Hin from the orginal location, but when LP Hin was in front of Wat Daowadang, they couldn't moved LP Hin. Some villagers repeatedly tried to move LP Hin to Wat Rat Prasit but it failed.

Therefore, the villagers prayed and asked LP Hin "which temple LP Hin wanted to live, please let LP Hin be moved easily". Finally, LP Hin chose to live at Wat Daowadung.

In 1978, a group of Bangkokian, who wanted to offer robes to Buddhist monks during Tod Phapa ceremony travelled to Singburi province.

At that time, they still didn't know which temple they wanted to stop by. Suddenly, a shadow of a Buddha statue appeared in front of their car. It really inspired them to the temple, even though they didn't know where the Buddha statue is enshrined.

But before reaching the temple, they saw a crossroads running to Wat Daowadung and Wat Rat Prasit. They thought about the way to go and decided to toss a coin.

When they arrived at Wat Daowadung, they were all shocked by the Buddha statue (Luang Pho Hin) in front of them because it's the same Buddha statue that they saw on the way.

วัดดาวดึงษ์

วัดนี้ตั้งอยู่ อ.เมือง ตลอดสองข้างทางก่อนถึงวัด เพื่อนๆ จะเห็นทุ่งนาเขียวขจี วัดนี้ไม่ค่อยมีอะไรมากนะคะ ที่เห็นมีมากสุดคงจะเป็นเจดีย์ที่ใส่อัฐิผู้เสียชีวิต ซึ่งอยู่กระจัดกระจายรอบอุโบสถ สิ่งที่น่าสนใจของวัดนี้คือ หลวงพ่อหิน ซึ่งประดิษฐานอยู่หลังอุโบสถ

คนส่วนใหญ่มาที่นี่เพื่อมาบน มาขอพรหลวงพ่อหิน พระที่สร้างปาฏิหาริย์ให้แก่ผู้ที่ศรัทธาในท่านอย่างต่อเนื่อง เอาล่ะ มาฟังเรื่องราวของท่านกันดีกว่า หลวงพ่อหิน คือ พระพุทธรูปที่ประดิษฐานอยู่ในวัดร้างใกล้กับวัดดาวดึงษ์ ต่อมาชาวบ้านวัดดาวดึงษ์และวัดราษฎร์ประสิทธิ์มาพบหลวงพ่อหิน ต่างฝ่ายต่างก็ต้องการนำหลวงพ่อไปประดิษฐานที่วัดของตน

ดังนั้นชาวบ้านจึงได้ร่วมกันชักลากหลวงพ่อหินจากวัดร้าง และเมื่อถึงวัดดาวดึงษ์ ปรากฏว่าชาวบ้านไม่สามารถเคลื่อนย้ายหลวงพ่อได้ พวกเขาจึงได้อธิษฐานว่า "ถ้าหลวงพ่อต้องการอยู่ที่วัดไหน ก็ขอให้เคลื่อนย้ายต่อไปได้อย่างง่ายด่าย" ทันใดนั้นชาวบ้านก็สามารถเคลื่อนย้ายท่านไปยังวัดดาวดึงษ์ได้โดยง่าย

นอกจากนี้ยังมีอีกเรื่องซึ่งเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นมานานแล้ว มีคณะผ้าป่าเสี่ยงทายจากกรุงเทพฯ เดินทางจะมาทอดผ้าป่าในต่างจังหวัด พอรถเข้าสู่ จ.สิงห์บุรี พวกเขาไม่รู้จะไปวัดไหนกัน ทันใดนั้นร่างของหลวงพ่อหินก็ได้ปรากฏกายที่หน้ารถ คณะผ้าป่าตกใจมาก แต่รถยังคงวิ่งต่อไป

เมื่อรถมาถึงทางแยกระหว่างวัดราษฎร์ประสิทธิ์และวัดดาวดึงษ์ พวกเขาไม่รู้จะไปทางไหน จึงได้ทำการโยนเหรียญเสี่ยงทาย โดยอธิษฐานว่า "ถ้าหลวงพ่อที่มาปรากฏกายให้เห็นอยู่วัดไหน ก็ขอให้เหรียญออกก้อยที่วัดนั้น" เมื่อพวกเขามาถึงวัดดาวดึงษ์ พวกเขาก็ต้องตกใจอีกครั้ง เพราะหลวงพ่อหินที่พวกเขาเห็นระหว่างทางอยู่ที่วัดแห่งนี้

สำหรับด้านหลังวัด เราจะพบศาลกุมารทองและกะโหลกศรีษะ เท่าที่เราไปส่องดูใกล้ๆ เราว่าเป็นกะโหลกคนจริงๆ นะ ไม่รู้ทำไมเอากะโหลกคนมาตั้งไว้ตรงนี้