Update : July 28, 2022

This temple is renowned as one of the most beautiful ordination hall in Singburi - the ordination hall is decorated with intricately carved doors and windows.

In the old days, King Rama 5 visited this temple and also bestowed a palanquin to Luang Pho Im who was the abbot in that time. Today, the palanquin is kept inside the temple.

The return of a stolen statue

The temple became known again, after a stolen statue of Luang Pho Im had been returned to the temple. Let's listen to the story of Luang Pho Im.

After Luang Pho Im passed away in 1946, villagers who had strong faith in him donated valuable items to make his statue, and then enshrined the statue in a pavillion within the temple.

One day, the statue disappered from the temple, without trace. In 2014, the famous amulet collector, Mr.Sudjai Jumjan, saw a statue that was sold in a market in Khon Kaen.

He thought that its size was much bigger than normal, that most people didn't enshrine the big statue like this in their homes. He felt sure the statue was definitely stolen.

He wanted to return the statue to the orginal place, so he prayed to the statue if he hit the jackpot, he would take the statue back home.

He kept his promise after hitting the jackpot. He returned to the amulet shop and told the shop owner that he wanted to buy the statue.

At first, the shop owner wanted to sell the statue for 100,000 baht ($ 3,340), but the shop owner changed his mind after listening the truth why he wanted to buy. He also told the shop owner that he saw LP Im in his dream. And LP Im said that he wanted to go back home.

Finally, the statue was sold for 55,000 baht ($ 1,840). And luckily, the name of Luang Pho Im and temple were engraved on its base before it went missing. The stolen statue returned home in 2015, after 40 years.

วัดประศุก

วัดประศุกตั้งอยู่ อ.อินทร์บุรี ห่างจากวัด วัดปลาไหล แค่ 3 กม. วัดนี้ขึ้นชื่อใน ด้านความงามของอุโบสถ ที่ประดับด้วยประตูและหน้าต่างไม้แกะสลัก นอกจากนี้ยังมีศาลเจ้าพ่อตะเคียนทอง สมัยก่อนคนมาขอหวยและถูกหวยกันบ่อย จึงได้มีการสร้างศาลให้เจ้าพ่อ

ครั้งนึง ร.5 เคยเสด็จประพาสต้นที่วัดนี้และยังได้พระราชทานถวายเสลี่ยงให้กับหลวงพ่ออิ่ม ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสวัดในขณะนั้น เมื่อท่านมรณภาพ เสลี่ยงนี้ (อายุ 115 ปี) ก็ถูกเก็บรักษาไว้ที่วัดเช่นเดิม

หลวงพ่ออิ่มกลับบ้าน

ในปี พ.ศ.2558 วัดนี้ได้กลายเป็นที่รู้จักอีกครั้ง เมื่อรูปหล่อโลหะของหลวงพ่ออิ่ม (พระครูพิศิษย์ ศีลคุณ) ที่ถูกโจรในหมู่บ้านขโมยไปจากวัดกว่า 40 ปี ได้ถูกนำกลับมาที่วัด มาฟังเรื่องราวปาฏิหาริย์ของท่านกันดีกว่า

เมื่อหลวงพ่ออิ่มมรณภาพ ในปี พ.ศ.2489 ชาวบ้านที่ศรัทธาต่อหลวงพ่อได้นำสิ่งของมีค่า เครื่องประดับต่างๆ มาสร้างเป็นรูปหล่อของท่าน และนำไปประดิษฐานที่ศาลาริมแม่น้ำเจ้าพระยา ต่อมาวันนึงรูปหล่อของท่าน ได้หายไปจากวัดประศุก

ผ่านมาร่วม 40 ปี วันนึงมีเซียนพระชื่อดัง คือ นายสุดใจ จุมจันทร์ (ใจ พิจิตร) ไปพบรูปหล่อของท่านถูกวางขายอยู่ที่ตลาดนัดจตุจักรขอนแก่น ช่วงเดือนตุลาคม พ.ศ.2557 ซึ่งเขาเห็นว่ารูปหล่อนี้ขนาดใหญ่เกินกว่าจะเป็นพระบูชาประจำบ้าน และแถมคนขายพระยังพยายามยัดเยียดขายให้เขา 2-3 ครั้ง เขาจึงคิดว่าพระองค์นี้ถูกขโมยมาอย่างแน่นอน ดังนั้นเขาจึงได้ตั้งจิตอธิษฐาน ขอให้มีโชคลาภแล้วจะซื้อถวายคืนวัด

ไม่น่าเชื่อ! เขาถูกหวย 3 ตัวตรง ได้เงินหลายแสนบาท เขาจึงไปเจราจาขอซื้อพระคืน ครั้งแรกคนขายบอก 1 แสนบาท แต่เขาบอกกับคนขายว่า "จะเช่าไปคืนวัดเพราะ หลวงพ่อมาเข้าฝันบอกว่าอยากกลับวัด" ปรากฏว่าคนขายถึงกับสะดุ้ง และลดราคาเหลือเพียง 55,000 บาท หลังได้พระมา เขาก็ถูกหวยอีก 2-3 ครั้ง

โชคดีที่ใต้ฐานพระมีชื่อของหลวงพ่ออิ่มและชื่อวัดอยู่ ทำให้เขาสามารถนำพระส่งคืนวัดได้ เมื่อชาวบ้านทราบข่าวว่าหลวงพ่ออิ่มกลับมา พวกเขาดีใจกันมาก จึงได้นิมนต์เจ้าอาวาส 9 วัด มาเจริญพระพุทธมนต์ และนำทองคำเปลวมาปิดองค์พระ