the ordination hall
Buddha statues in the ordination hall
this building is called viharn
the big Buddha statue is called Luang Pho U-Thong
Buddha statue in an open-air pavilion
Buddha statues in Viharn Chaturamuk
Luang Pho Sai
Ancient Toilets
Wat Pakyak Kharam
Update : January 21, 2023
Wat Pakyak Kharam is simple known as Wat Suea - the word "suea" is the first abbot's name. Both means tiger, but the word "Pakyakkha" sounds formal.
The temple was constructed in 1792, located in Tha Wung district. Many objects from the past were found buried underground such as Lopburi-style Buddha statues, ivory Buddha sculptures, ancient Thai ceramic wares.
Main attractions
1. The ordination hall - it was built in 1932 when Luang Pho Sai was the abbot.
2. Viharn - an old building with U-Thong style Buddha statue. The Buddha statue is called "Luang Pho U-Thong" by local people.
3. Viharn Chaturamuk - a building with triple gabled roofs. It was built to commemorate the 60th anniversary of the death of Luang Pho Sai. There are two tiger statues in front of it.
4. Ancient Toilets, over 100 years old, is located behind the big tamarind tree, opposite to Viharn Chaturamuk.
Monk Biography
Luang Pho Sai Tisaro was the 3rd abbot and also Ecclesiastical District officer. He was born in 1854, in Tha Wung district, Lopburi.
Before his ordination, he had an immense interest in magic spells and Buddhist tattoos. Therefore, when he was 21 years old corresponding to the year 1875, he was ordained as a monk at Wat Pakyak Kharam.
His preceptor was Luang Pho Puk, who was the 2nd abbot of Wat Pakyak Kharam. And his Dharma teacher was Luang Pu Khong of Wat Khao Samo Kon.
He learned magic spells, Dharma and meditation from the two senior monks for 3 years. He then went deep into the forest and tested his psychic powers by transferring his kindness and compassion to animals. He could make a tiger completely tame.
After many years of spending time in the forest, he returned to the temple to take care of LP Puk. Later, he was appointed as the abbot. The temple was very prosperous during his time.
He was a developer and great preacher. A lot of monks who were interested in practicing Dharma came to the temple. During the peak, there were up to 80 monks staying there.
Later, he was given a title "Phra Kru Sangvara Sophon". Luang Pho Sai passed away at the age of 92, in 1946.
วัดพยัคฆาราม
เดิมชื่อวัดเสือ เนื่องจากเจ้าอาวาสรูปแรกของวัดชื่อ หลวงพ่อเสือ แต่ต่อมาในสมัยหลวงพ่อสาย ท่านได้เปลี่ยนชื่อเป็นวัดพยัคฆาราม วัดสร้างขึ้นใน ปี พ.ศ.2335 ตั้งอยู่ อ.ท่าวุ้ง ได้มีการขุดพบพระพุทธรูปสมัยลพบุรี พระงาแกะสมัยสุโขทัย และถ้วยสังคโลกในบริเวณวัด
สิ่งที่น่าสนใจในวัด
1.พระอุโบสถ สร้างในปี พ.ศ.2475 ตรงกับสมัยของหลวงพ่อสาย
2.วิหารหลังเก่า ประดิษฐานพระพุทธรูปสมัยอู่ทอง ชาวบ้านเรียกท่านว่า "หลวงพ่ออู่ทอง"
3.วิหารจตุรมุข มีรูปปั้นเสือสีขาว 2 ตัว อยู่ด้านหน้า วิหารนี้ได้สร้างขึ้นหลังจากที่หลวงพ่อสายมรณภาพครบ 60 ปี ภายในมีรูปหล่อพระภิกษุหลายองค์
4.ส้วมโบราณ อายุ 100 กว่าปี (อยู่ฝั่งตรงข้ามกับวิหารจตุรมุข) ด้านหน้ามีต้นมะขามขนาดใหญ่
ประวัติหลวงพ่อสาย
หลวงพ่อสาย ติสฺสโร คือเจ้าอาวาสรูปที่ 3 ของวัด และยังเป็นเจ้าคณะอำเภอท่าวุ้ง ท่านเกิดวันพุธที่ 4 ปีเถาะ พ.ศ.2397 ที่ อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี
ก่อนท่านบวช ท่านมีความสนใจด้านไสยศาสตร์ คาถาอาคม และสักยันต์ ต่อมาเมื่ออายุ 21 ปี ตรงกับ พ.ศ.2418 ท่านได้อุปสมบทที่วัดเสือ โดยมีหลวงพ่อพุก เจ้าอาวาสรูปที่ 2 ของวัดเสือ เป็นพระอุปัชฌาย์ และหลวงพ่อก๋ง วัดเขาสมอคอน เป็นพระกรรมวาจาจารย์
ท่านได้เรียนวิชาอาคมต่างๆ จากหลวงพ่อพุก และหลวงพ่อก๋ง อยู่ 3 พรรษา จากนั้นก็ได้ออกธุดงค์เข้าป่าลึก ท่านได้ทดสอบพลังจิตและแผ่เมตตา จนสัตว์ดุร้ายอย่าง เสือยอมหมอบคลานเข้ามาหาได้
หลังจากธุดงค์ในป่าอยู่หลายปี ท่านก็ได้กลับมาที่วัดเสือเพื่อมาดูแลหลวงพ่อพุกที่กำลังป่วย หลังจากหลวงพ่อพุกมรณภาพ ท่านก็ได้เป็นเจ้าอาวาสวัด หลวงพ่อสายเป็นนักพัฒนาและนักเทศก์ ในสมัยท่านมีผู้สนใจมาบวชเรียนกันมาก บางปีมีพระมาจำพรรษาถึง 80 รูป
ท่านยังได้รับคำยกย่องจากสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส ว่ามีรูปสมบัติเป็นสง่า มีทั้งมารยาทงดงาม น่านับถือ นอกจากนี้ท่านยังเป็นพระที่ชาวบ้านให้ความเคารพ จนได้รับการแต่งตั้งให้เป็นพระอุปัชฌาย์วัดเสือ ต่อมาได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็น "พระครูสังวรโสภณ เจ้าคณะอำเภอท่าวุ้ง"
ส่วนวัตถุมงคลที่ท่านสร้าง ได้แก่ เหรียญ รุ่น พ.ศ.2462 และรุ่น พ.ศ.2482, ขี้ผึ้งทาสีปาก, พระเนื้อเมฆพัด, รูปถ่าย พ.ศ.2467, ผ้ายันต์กระต่าย, ตะกรุดโทน ฯลฯ
หลวงพ่อสาย มรณภาพเมื่อวันจันทร์ เดือนยี่ ปีจอ พ.ศ.2489 สิริอายุ 92 ปี