Update : July 4, 2022

Wat Amphawan is located in Phrom Buri District, 14 km. from The City Pillar Shrine. It's well known as Wat Luang Pho Jarun. The word "wat" means "temple" and "Luang Pho Jarun" is the former abbot's name. 

LP Jarun Thitathammo was famous throughout Thailand for his meditation teachings. He had dedicated his life to teaching the meditation and also helping poor people for several years, that is why everyone respects to him. 

He passed away when he was 87 years old. Shortly after his death, his life-sized statue was made. Nowadays, his statue is enshrined in a small building, where is called "Kuti" (monk's cell). 

As for his body, it has been preserved in a coffin in a hall next to the ordination hall (Ubosot or Bot). And It's open to the public every day. But in the future, his body will be moved into a new white stupa, after its construction has been finished. 

Within the temple compound, there is nothing much to see, except the new white stupa,  the ordination hall with the principal Buddha statue, and a white elephant statue.

The elephant statue is called "Chang Ton Mongkhonchai" - it was built as an imitation of the elephant of King Naresuan the Great to welcome foreigners to the World Bank meeting at the Queen Sirikit National Convention Center in October 1991. 

When the meeting ended, the catering manager of the Dusit Thani  Hotel, who was responsible for the meeting, didn't know where to place the elephant statue. But he used to read a book about LP Jarun and remebered that LP Jarun learned "elephant spells" from a monk, named LP Doem of Wat Nong Pho. Therefore, he thought the elephant should be with LP Jarun.

A week later, the manager came to meet LP Jarun and told him that he would bring an elephant statue to him. But LP Jarun had already known that before he arrived, because the elephant appeared in LP Jarun's dream and said that he wanted to be with him. The elephant was carried to the temple on December 19,1991.

Most Thai people come here to practice Dharma, while some people come here to pay their respects to Luang Pho Jarun. How about you? If your answer is praticing Dharma, you have to make sure that you can follow the temple rules. 

Here, all of the Dharma practitioners must meditate all day long and also wake up very early (between 2.40-3.20am). But luckily, they're allowed to take short breaks during the day. 

How to get here

If you're in Bangkok, you can take either a public van or a minibus to the temple. But in my opinion, the best choice for you is taking the public van from Mor Chit New Van Terminal in Chatuchak District, where is now opposite to a bus terminal, because it doesn't take for a long time to the temple.

But if you don't really want to go to Chatuchak, the last choice is to take a public van in Rangsit area. It's a small termial, where Thai people call "Ta-rod-thu Thang-chang-wat" opposite a shopping mall named "Future Park Rangsit".

A ticket costs around 100 - 120 baht, and it takes about 2 - 2.5 hours to the temple depending on the traffic in Bangkok. 

The driver will drop you on the main street (at the entrance to the temple), then you ride a motorcycle taxi or walk about 10 - 15 minutes along the road. If you walk, I'm 100% sure you won't lose the way, because the spire of the big white stupa will guide you to the temple.

How to practice Dharma at Wat Amphawan in 2022

1.Pre-register for Dharma practice on a website of Wat Amphawan only, just click on the link www.amphawan.net

Please note :  the temple now allows only Thai people to register, and also limits a total number of practitioners.

2.The day you enter the temple, you must submit documents as listed below to the temple registrars.

   2.1 completed registration forms

   2.2 ID card or driver license

   2.3 a vaccination certificate and ATK test result

3.After you submit the documents, you must wait about 5-15 minutes at the registration desk to get a temple card. The temple card shows your name and other details.

4.Leave your belongings in the room and wear a white temple uniform.

วัดอัมพวัน

วัดอัมพวัน ตั้งอยู่ อ.พรหมบุรี ห่างจากตัวเมือง 14 กม. วัดนี้มีชื่อเสียงมากในประเทศไทยใน "ด้านการฝึกปฏิบัติสมาธิ" ซึ่งในอดีตนั้น หลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม (พระธรรมสิงหบุราจารย์) อดีตเจ้าอาวาสวัด ท่านเป็นผู้สอนการเดินจงกลมและนั่งสมาธิด้วยตัวท่านเอง 

การปฏิบัติธรรมที่นี่ถือว่าหนักกว่าวัดอื่นที่เราเคยไปบวชมาหลายวัด แต่ถ้ามาบวชวัดนี้ได้เกิน 10 ครั้งขึ้นไป เวลาไปปฏิบัติธรรมที่วัดอื่น เราจะรู้สึกเลยว่าสบายมาก 

หลวงพ่อจรัญมรณภาพ วันที่ 25 มกราคม 2559 สิริอายุ 87 ปี ตลอดระยะเวลาที่ท่านมีชีวิตอยู่ ท่านได้อุทิศตนสอนการปฏิบัติสมาธิ และยังได้นำเงินส่วนนึงมาช่วยในการก่อสร้างโรงพยาบาลสิงห์บุรี และสถานที่ปฏิบัติธรรมอื่นๆ อีกมากมาย

ถ้าเพื่อนๆ มาถึงหน้าวัดแล้ว อย่าลืมช่วยกันอุดหนุนพวงมาลัยของป้า ที่ขายบริเวณถนนหน้าอุโบสถด้วยนะคะ ป้าทั้งสองแก่มากและมีโรคประจำตัวเยอะ แกแทบจะเดินไม่ได้ด้วยซ้ำ 

เราได้สอบถามไปยังวัดอัมพวัน เมื่อวันที่ 1 มีนาคม พ.ศ.2566 เรื่องการสร้างพระเจดีย์ธรรมสิงหบุราจริยานุสรณ์ (หลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม) ทุกท่านยังสามารถโอนเงินไปร่วมบุญได้ที่ ธนาคารกสิกรไทย สาขาเทสโก้ โลตัส อินทร์บุรี ชื่อบัญชี วัดอัมพวัน เพื่อสร้างเจดีย์ เลขที่ 009-1-72315-8

อาจารย์ของหลวงพ่อจรัญ

อาจารย์ของหลวงพ่อมีอีกหลายรูป แต่เราจะขอเอ่ยนามเฉพาะบางรูปนะคะ

1.พระครูนิวาสธรรมขันธ์ (เดิม พุทฺธสโร) วัดหนองโพ จ.นครสวรรค์ - เรียนวิชาคชศาสตร์ การต่อช้างป่า การกำราบช้างตกน้ำมัน การดูแลช้าง 

หลวงพ่อเดิมสอนวิชานี้ให้กับหลวงพ่อจรัญเพียงผู้เดียว โดยท่านสอนก่อนที่จะมรณภาพแค่ 15 วันเท่านั้น ตอนนั้นหลวงพ่อเดิมท่านพยายามทรงสังขารเพื่อสอนวิชานี้ให้กับหลวงพ่อจรัญ พอสอนเสร็จท่านก็มรณภาพ หลวงพ่อเดิม คือ พระที่ทำให้ หลวงพ่อจรัญตัดสินใจบวชตลอดชีวิต

หลวงพ่อเดิม ได้กล่าวไว้ว่า การที่จะทำให้ช้างละพยศ หายตกมันได้นั้น ให้กำหนดเห็นเทวดารักษาช้างแล้วก็แผ่เมตตาให้เทวดา เทวดารับแล้วก็จะบังคับช้างให้เชื่อง พระที่ท่านมีกสิณท่านจึงแผ่เมตตาให้เทวดา ไม่ได้แผ่ให้ช้าง

หลวงพ่อจรัญ ได้กล่าวไว้ว่า "การเพ่งกสิณและแผ่เมตตาไปสยบช้างตกมันนั้น ต้องเพ่งให้ได้ถึง 80 % เป็นอย่างน้อย ต่ำกว่านั้นต้องรีบหนี และการแผ่เมตตาปราบช้างต้องดูกาลเทศะด้วย ไม่ใช่แผ่ดะ อันนี้ท่านบอกเตือนพระธุดงค์มือใหม่ เทวดารักษาช้างนั้นสำคัญที่สุด ช้างบางตัวก็มีเทวดารักษา บางตัวก็ไม่มี 

2.พระสุทธิธรรมรังสีคัมภีรเมธาจารย์ (ลี ธมมฺธโร) วัดอโศการาม จ.สมุทรปราการ และ พระอริยคุณาธาร (เส็ง ปุสฺโส) จ.ขอนแก่น - เรียนวิชากรรมฐาน

3.หลวงพ่อจง พุทฺธสโร วัดหน้าต่างนอก จ.อยุธยา - เรียนการทำพระเครื่อง เครื่องรางของขลัง น้ำมนต์

4.หลวงพ่อสนั่น วัดเสาธงทอง จ.อ่างทอง 

5.หลวงพ่อจาด วัดบ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรี 

6.พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) ที่วัดปากน้ำภาษีเจริญ อ.ภาษีเจริญ จ.ธนบุรี - เรียนวิชชาธรรมกาย

7.พระธรรมธีรราชมหามุนี (โชดก ญาณสิทฺธิ) วัดมหาธาตุ กรุงเทพฯ - เรียนวิปัสสนากรรมฐาน

8.หลวงพ่อลี วัดบางปิ้ง จ.สมุทรปราการ - เรียนวิชาสเดาะกุญแจ

9.อาจารย์เตชิน (ชาวพม่า) ที่วัดระฆังโฆษิตาราม จ.ธนบุรี - ศึกษาพระอภิธรรม 

10.หลวงพ่อดำ พระอาจารย์ในป่า - ตอนนั้นหลวงพ่อจรัญจะลาสึกให้ได้ แต่ท่านก็ได้ยินเสียงของหลวงพ่อดำแว่วเข้ามาในหูว่า “สึกไปหาอะไรกันเล่า นะโมยังไม่ได้เลย นะโมได้แล้วสึกก็ไม่น่าเสียดาย” ทำให้หลวงพ่อจรัญเลื่อนการสึกออกไป จนท่านได้ไปพบกับหลวงพ่อเดิมแล้วฝากตัวเป็นศิษย์

เมื่อหลวงพ่อเดิมมรณภาพ หลวงพ่อจรัญจึงได้มาพบกับหลวงพ่อดำในป่า แล้วเรียนวิชายืดเหรียญกับท่านในเวลาต่อมา

------------------------------------------

รูปปั้นช้างสีขาว คือ ช้างต้นมงคลชัย เป็นช้างของพระนเรศวร (ตามรูปด้านบน) มาเข้าฝันหลวงพ่อจรัญ เพื่อขอมาอยู่กับหลวงพ่อ เป็นช้างที่ถูกสร้างขึ้น เพื่อต้อนรับชาวต่างชาติในการประชุมธนาคารโลก ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เมื่อเดือนตุลาคม 2534 

เมื่อการประชุมจบลง ผู้ที่สร้างช้าง (ผู้จัดการฝ่ายจัดเลี้ยงโรงแรมดุสิตธานี) ไม่รู้จะนำช้างไปไว้ที่ไหน แต่เขาจำได้ว่าหลวงพ่อจรัญ ได้เรียนคาถาช้างกับ "หลวงพ่อเดิม" วัดหนองโพ จึงได้เดินทางมาพบหลวงพ่อ แล้วบอกหลวงพ่อว่าจะนำช้างมาถวาย ซึ่งหลวงพ่อจรัญทราบอยู่แล้วเพราะ ช้างได้มาเข้าฝันก่อนหน้า มีการจัดทำบายศรีรับช้าง ในวันพฤหัสบดีที่ 19 ธันวาคม 2534

การเดินทางมาวัดอัมพวัน 

1.นั่งรถตู้จาก สถานีขนส่งหมอชิต เขตจตุจักร (ใช้เวลาเดินทาง 2-2.30 ชม กรณีที่รถไม่ติดมาก) แต่ถ้าจะมารถบัสก็จะอยู่ฝั่งตรงข้ามกัน ต้องเดินข้ามสะพานลอยไปอีกฝั่ง ปกติเราจะขึ้นแต่รถตู้เพราะว่าสะดวกและเร็วดี ค่ารถตู้ 100 - 120 บาท

*ถ้าเพื่อนๆ อยู่กรุงเทพฯ เราแนะนำให้นั่งรถใต้ดิน MRT มาลงสถานีกำแพงเพชร แล้วนั่งมอไซค์ 40 บาท และบอกให้คนขับมอไซค์มาจอดที่ท่ารถตู้ แล้วเดินไปซื้อตั๋ว (เบอร์โทรที่ท่ารถตู้  062-423-6554) รถออกตั้งแต่ ตี 5 - 18.00 น. แต่ช่วงโควิด บางทีรถก็หมดก่อน บางทีก็มีรอบต่อถึง 18.30 น. ให้โทรเช็คกับท่ารถก่อน ถ้าจะมาขึ้นรถตอนเย็นๆ หรือเช้ามืด

2.ท่ารถตู้ต่างจังหวัด (อยู่ตรงข้ามห้างฟิวเจอร์รังสิต) ส่วนค่ารถตู้ เราจำไม่ได้ว่า 100 หรือ 120 บาทนะ 

3.หากไม่สะดวกมาขึ้นที่สถานีขนส่ง ลองโทรสอบถามกับทางท่ารถ เผื่อว่าเราจะดักขึ้นรถกลางทางได้ 

พอลงรถที่วัดอัมพวัน ต่อมอไซค์เข้ามา ถ้าจำไม่ผิด ค่ารถ 20 บาท แต่ถ้าจะเดินก็ใช้เวลา 10-15 นาที เดินตรงมาอย่างเดียว ไม่หลงแน่นอน ให้ดูยอดเจดีย์สีขาวๆ

การเดินทางกลับ (ออกจากวัดอัมพวัน)

1.นั่งมอไซค์ออกจากวัดมาลงที่ถนนใหญ่ หรือเดินออกมาก็ได้

2.ถ้าจะกลับ กทม ไม่จำเป็นต้องข้ามสะพานลอย เพราะมีรถตู้มารอรับกลับเข้า กทม. ให้รอตรงศาลาที่ติดกับสะพานลอย (เป็นจุดเดียวกับที่เพื่อนๆ ลงจากรถตู้นั่นแหละ) แต่ถ้าอยากขึ้นรถบัสกลับ กทม ก็ข้ามสะพานลอยไปโลด (บอกเลยว่าสะพานยาวมากค่ะ มีเมื่อยแน่ๆ)

มาปฏิบัติธรรมที่วัดอัมพวัน ต้องเตรียมอะไรบ้าง

ไม่ต้องมีอะไรมาก เตรียมใจให้พร้อม และนั่งรถมาโลด

1.บัตรประชาชน เพื่อใช้ลงทะเบียน

2.ชุดชี เข็มขัด ทางวัดมีให้ยืม หรือถ้าเรามีชุดแล้วก็เตรียมมาเอง (ที่นี่มีคนรับซักชุดชีแล้วเอามาส่งให้ที่วัดทุกวัน) ,ทางวัดมีแต่หมอนให้ ส่วนผ้าห่มเราต้องเตรียมมาเอง 

3.ต้องมาถึงวัดก่อน 16.00 น. เพื่อลงทะเบียน มาได้ทุกวัน แต่ช่วงเทศกาลหรือวันพระใหญ่ คนมาปฏิบัติธรรมค่อนข้างเยอะ ทำใจไว้ด้วยว่าอาจต้องนอนเบียดกันเหมือนปลาทูในเข่ง แต่เรามาก็เพื่อฝึกความอดทน ดังนั้นมาแล้วก็ต้องอยู่ให้ได้ อย่าบ่นค่ะ

สำหรับคนที่ไม่เคยมาวัดนี้ ควรมาให้ตรงรอบ คือวันศุกร์ หรือวันโกน ส่วนที่คนเคยมาแล้วก็มาได้ทุกวัน ถ้ามาวันธรรมดา คนจะน้อยหน่อยค่ะ

4.ของใช้ส่วนตัวอื่นๆ เช่น สบู่ ยาสระผม หวี ผ้าสไบ สามารถซื้อกับร้านค้าเล็กๆ ในวัดได้

5.เมื่อลงทะเบียนเสร็จ ให้หยิบหนังสือเล่มสีชมพู (ดูรูปด้านบน) ที่โต๊ะลงทะเบียน ในหนังสือจะบอกระเบียบปฏิบัติ เช่น เวลาตื่นนอน เวลาทำสมาธิ ฯลฯ หนังสือนี้ทางวัดแจกฟรี ใช้เสร็จนำกลับบ้านได้

6.ระยะเวลาที่มาปฏิบัติธรรม 3วัน 5วัน 7วัน 

ทางวัดมีช่วงเวลาให้ผู้ปฏิบัติธรรมพักหลายรอบ เพราะที่นี่ปฏิบัติค่อนข้างหนัก เน้นการนั่งสมาธิ เดินจงกลม เกือบทั้งวัน ในระหว่างวันถ้ารู้สึกง่วงนอน ก็มีร้านขายชา กาแฟ แก้วละ 25 - 30 บาท

ในปี 2022 ทางวัดเริ่มรับผู้ปฏิบัติธรรมแล้วนะคะ แต่ต้องลงทะเบียนจองล่วงหน้า เพราะทางวัดจำกัดจำนวนคนที่มา ส่วนรายละเอียดให้เข้าไปดูที่ www.amphawan.net อีกที

สำหรับท่านที่ต้องการ พิมพ์หนังสือแจก

"หนังสือระเบียบปฏิบัติสำหรับผู้ปฏิบัติธรรมของวัดอัมพวัน" เล่มสีชมพู เป็นหนังสือเล่มเดียวที่ทางวัดใช้ ในการสวดมนต์นะคะ

1.โทรไปที่ บริษัทรุ่งเรืองวิริยะพัฒนา 02-517-7445 และแจ้งรหัสหนังสือ คือ วิริยะ 013 

   สั่งซื้อขั้นต่ำ 100 เล่ม ราคาหนังสือขึ้นอยู่กับจำนวนเล่มที่สั่ง 10-20 บาท/เล่ม

2.สั่งจาก เพจธรรมะสุขใจ หรือ www.sukjaibook.com ,โทร 081-479-8297

   ถ้าไม่ใส่รายชื่อผู้ที่พิมพ์หนังสือ เล่มละ 10 บาท สั่งกี่เล่มก็ได้ แต่ถ้าใส่รายชื่อ ราคาหนังสือก็ขึ้นอยู่กับจำนวนเล่มที่สั่ง ขั้นต่ำ 100 เล่ม