Update : May 8, 2023

Wat Pathum is located between two famous shopping malls Siam Paragon and Central World, easily accessible by public transport like BTS skytrain, bus, etc. If you take a BTS skytrain, you get off at Siam station. 

The temple was founded in 1857 by the order of King Rama 4 as a place of worship near his palace. 

This temple consists of two areas. The 1st area is near the temple gate, where you will see white buildings with Buddha statues inside. The two main buildings enshrine ancient Buddha statues from Laos, named Phra Sai and Phra Serm.

Legend says that three daughters of the king of Lan Chang kingdom (Laos) had three Buddha statues made. Later, the 3-Buddha statues such as Phra Suk, Phra Serm, and Phra Sai were placed on a raft and moved to Thailand.

On their way to Thailand, there was a rainstorm, that caused Phra Suk to sink to the bottom of the Mekong river. So, the two Buddha statues that could cross the river are Phra Serm and Phra Sai.

The 2nd area is covered by trees. Once you enter this area, you feel cool, because many tall trees and plants in the temple build a shady atmosphere. So most people call it "Wat Pa", that means "Forest temple".

Within the 2nd area, there is a big pavilion that people often gather in the evening to pray and meditate. If you're looking for a quiet place to practice Dharma, I recommend this temple to you.

วัดปทุมวนาราม

วัดนี้ตั้งอยู่ใจกลางกรุงเทพฯ ระหว่างศูนย์การค้า Central World กับ Siam Paragon ถ้าใครจะมาเที่ยวที่นี่ก็นั่งรถไฟฟ้า BTS มาลงสถานีสยาม 

วัดนี้ได้ชื่อว่าวัดป่า บรรยากาศร่มรื่นมาก และเงียบสงบมาก ถือว่าเป็นอีกวัดที่เราชอบมากๆ ร.4 ให้สร้างวัดนี้ขึ้นราวปี พ.ศ.2400 เพื่อเป็นที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาใกล้กับวังสระปทุม 

วัดนี้จะแบ่งเป็นพื้นที่เป็น 2 ส่วน โดยพื้นที่ด้านหน้า (ติดประตูทางเข้าวัด) จะมีอาคารสีขาวและเจดีย์สีขาว อาคารหลังแรก คืออุโบสถ จะมีรูปปั้นพญานาคอยู่ที่ประตูทางเข้า ภายในประดิษฐาน พระไส (หรือพระสายน์) 

ส่วนอาคารหลังที่สอง คือวิหาร ประดิษฐาน พระเสริม (หรือพระแสน) พระพุทธรูปทั้งสอง เป็นพระพุทธรูปเก่าแก่ ศิลปะล้านช้างเวียงจันทน์ ถูกนำมาจากประเทศลาว และถูกนำมาประดิษฐานในวัดปทุม ในรัชสมัย ร.4 

มีตำนานเล่ากันว่า พระธิดาสามพี่น้องของกษัตริย์ล้านช้าง ได้ร่วมกันสร้างพระพุทธรูปขึ้น 3 องค์ ได้แก่ พระสุก พระเสริม และพระใส ต่อมาได้มีการอัญเชิญพระพุทธรูปมาประดิษฐาน ณ เมืองหนองคาย ตั้งแต่สมัยธนบุรี แต่ระหว่างทางที่นำพระพุทธรูปล่องแพมา เกิดพายุฝนรุนแรง ทำให้พระสุกจมหายไปในแม่น้ำโขง คงเหลือแต่พระเสริม และพระใส

สำหรับพื้นที่ส่วนที่ 2 อยู่ด้านใน เดินลึกเข้ามานิดนึง จะเห็นต้นไม้เต็มไปหมด และมีศาลาปฏิบัติธรรม ซึ่งศาลานี้มีชื่อว่า "สวนป่าศาลาพระราชศรัทธา" ในช่วงเย็นของทุกวัน จะมีผู้คนเดินทางมาร่วมสวดมนต์กันเป็นจำนวนมาก