The ordination hall still under restoration

statue of the previous abbot is called Luang Pho Yai

statue of the black Buddha is called Luang Pho Dam

Luang Pho Dum faces the main road

Wat Yai

Update :  August 29, 2022

Wat Yai is 1.5km away from Wat Muang Chum. The temple greets you with the black Buddha statue, called "Luang Pho Dum". LP Dum stands on a high base near the temple wall, and faces the main road. 

In the old days, this temple was very famous. Most people from all over the country always came here, because they had great faith in Luang Pho Boonchauy, who was the abbot and had the temple rebuilt. 

During his time as the abbot, he saw a vision of a monk while meditating. And that monk told LP Boonchauy that he was the previous abbot and passed away centuries ago. So Luang Pho Yai's shrine was built. The shrine has been placed for people to worship him, situated near the temple wall.

Besides the spirit house, he also built other buildings in the temple. With the intention of LP Boonchauy to help local people, he decided to build a crematorium. 

But unfortunately, he passed away before the construction was finished and left debt behind. At that time, 70% of the construction was completed.

Wimol Siripaiboon is a famous Thai novelist - most Thai people may not know her real name. But if I mention about her pen name "Thommayanti" that sounds familiar. She respects to LP Boonchauy and has strong Buddhist faith.

When she heard of the abbot's death, she dealt with the temple debt and also continued the construction project. She donated some money to the temple and discussed these matters with the temple's committee - I get some information from http://www.dhamma5minutes.com

The first thing you should do when you reach the temple is worshipping LP Boonchauy. His body is still preserved in a glass coffin in a one-story building, behind the ordination hall.

This temple isn't only a center for people's hearts, but also an animal shelter. Temple has taken care of animals (dogs and cats) for over ten years, even though the temple is facing a financial crisis because of COVID-19 pandemic.

If you want to help poor animals, you can put your money in the donation box near the coffin of LP Boonchauy or donate food to the temple.

วัดใหญ่

วัดนี้ไม่ได้มีอะไรสะดุดตามาก นอกจาก หลวงพ่อดำองค์ใหญ่ที่ประดิษฐานอยู่ด้านหน้าวัด แต่เราอยากให้ทุกคนมาช่วยวัดหน่อย เพราะอะไรนะหรอ เพราะเราศรัทธาในหลวงพ่อบุญช่วย ถึงแม้ว่าจะไม่เคยพบท่าน ขณะที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ก็ตาม

จำได้สมัยก่อนแม่เคยเล่าให้ฟังว่า คนจากทั่วสารทิศมาที่วัดนี้ทุกเดือน เพราะหลวงพ่อบุญช่วยท่านเก่งมาก ท่านสามารถเห็นอดีตชาติของคนได้ คุณทมยันตี นักเขียนชื่อดัง ก็ศรัทธาท่านมาก ถ้าเพื่อนๆ อยากทราบว่าทำไม ลองเข้าไปที่เพจนี้ดูคะ http://www.dhamma5minutes.com  

หลวงพ่อบุญช่วย ท่านมาบุกเบิกวัดนี้ จากวัดร้างจนกลายเป็นวัดที่เป็นศูนย์รวมใจของผู้คนมากมาย จะสังเกตว่าหน้าวัดมีรูปปั้นงูดำขนาดใหญ่ เพราะหลวงพ่อสามารถ รักษาคนที่ถูกพิษงูได้ทุกชนิด หลวงพ่อคือ "เทพเจ้าแห่งงูใหญ่" คนที่มาบนแล้วไม่มาแก้ จะมีงูใหญ่ไปปรากฏให้เห็น ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนก็ตาม 

ช่วงที่หลวงพ่อบุญช่วยมาสร้างวัดที่นี่ หลวงพ่อใหญ่ ได้มาหาหลวงพ่อบุญช่วยในนิมิต แล้วบอกว่าท่านคือ เจ้าอาวาสรูปก่อนของวัดนี้ ดังนั้นวัดนี้จึงชื่อว่าวัดใหญ่ จากนั้นหลวงพ่อบุญช่วยจึงได้สร้างศาลเล็กๆ ให้กับหลวงพ่อใหญ่ ซึ่งศาลนี้จะอยู่ใกล้กับประตูทางเข้าวัด จนถึงตอนนี้ก็ไม่มีใครทราบว่าหลวงพ่อใหญ่อายุกี่ร้อยปี แต่เท่าที่คุยกับแม่ชี ทราบมาว่างานไหว้ครูประจำปีของวัด หลวงพ่อใหญ่มาร่วมงานด้วย 

ส่วนหลวงพ่อดำองค์ใหญ่ ปัจจุบันประดิษฐานอยู่ที่หน้าวัด มีหลายคนก็มาขอพรท่าน เมื่อประสบความสำเร็จก็จะนำเงินมาช่วยวัด เราเองก็มาบนกับท่าน ทำให้ธุรกิจที่แย่ๆ กลับฟื้นตัว งานทะยอยเข้ามาเรื่อยๆ จนเดือน ก.พ. 2564 ได้เงินมาก้อนนึง จึงได้นำไปช่วยวัด 

พอช่วง มี.ค. 2564 เราได้ขอพรกับพ่อแก่ เพราะทางวัดจะจัดงานไหว้ครูประจำปี แต่ทางวัดขาดปัจจัยจำนวนมาก พอเราได้เงินมา เราก็นำไปช่วยวัดอีกรอบ ใครอยากจะบนหลวงพ่อดำ จุดธูป 7 ดอก แต่อย่าไปขอหวย บุญเราไม่มี ขอให้ตายพระที่ไหนก็ช่วยเราไม่ได้ ขอเรื่องทำมาหากินดีกว่า 

สำหรับเราแล้ว วัดนี้ก็เป็นอีกวัดที่เรามาบ่อย เราก็ศรัทธาหลวงพ่อบุญช่วยมาก แต่พระที่เรานับถือเป็นอาจารย์จริงๆ คือหลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน กับหลวงพ่อถาวร วัดป่าศรีถาวรนิมิตร เพราะท่านสอนสมาธิเรา

จำได้ว่าสมัยก่อนหลังจากคุณพ่อเสีย ธุรกิจอู่ซ่อมรถ บ้านเช่า รวมถึงงานวิ่งรถบัส ก็พังทลายลงไปด้วย ทำให้ชีวิตค่อนข้างลำบากต้องเป็นเสาหลักของครอบครัว ทุกครั้งที่มาวัด แม่ชีจะเมตตาให้ข้าวไปกินประจำ ซึ่งเราก็ไม่เคยลืมบุญคุณของท่าน แล้วก็ได้บอกกับหลวงพ่อบุญช่วยว่า "วันนึงลูกจะกลับมาช่วยวัด ลูกจะไม่ทิ้งวัด"  คำพูดที่เคยบอกกับหลวงพ่อบุญช่วยไว้นั้น มันยังคงดังก้องอยู่ในหัวเสมอ 

เพจนี้เกิดขึ้นเพราะวัดใหญ่ ถ้าไม่คิดจะช่วยวัดใหญ่ คงไม่ได้มาทำเพจนี้ เพราะข้าวก้นบาตรของหลวงพ่อในวันนั้น ทำให้เราโตมาจนถึงทุกวันนี้  และเราไม่เคยลืมว่าใครที่มีบุญคุณกับเราในวันที่เราลำบาก ภายใน 3 ปี ถ้าเราเก็บเงินให้ครอบครัวได้ตามแผนที่วางไว้ แล้วเรามีเงินเหลือ ไม่ว่าจะเป็นแสนหรือเป็นล้าน เราจะนำเงินมาให้หลวงพ่อ มาพัฒนาวัด โดยไม่ให้วัดรอเงินบริจาคจากภายนอกอีก นี่คือสัจจะที่บอกกับหลวงพ่อดำ และหลวงพ่อบุญช่วยไว้

เราจำได้ว่า เราไปกราบสมเด็จพระนเรศวรที่คูค่ายพม่า เราบอกกับท่านว่าเราจะเปิดเพจเพื่อดึงเม็ดเงินคนต่างชาติมาช่วยวัด มาพัฒนาบ้านเกิด คืนนั้นเราฝันเห็นมังกรตัวใหญ่มากๆ บินวนรอบท้องฟ้า เราถือว่านั่นคือพรที่ท่านให้เรา

ในช่วงโควิดระบาด เราก็มาไหว้หลวงพ่อตามปกติ แม่ชีเล่าให้ฟังว่าไม่มีเงินจะซื้อข้าวให้หมาแมว  ต้องไปยืมเงินชาวบ้านมาซื้อข้าว ข้าวที่พระบิณฑบาตรมาก็ไม่พอ แถมยังเต่า ตะพาบ กับปลาในบ่อ ก็โผล่หัวมาขอข้าวกินทุกวัน แม่ชีกับหลวงน้า (เจ้าอาวาสคนปัจจุบัน) ก็เครียดมาก นอกจากนี้ยังมี อุโบสถที่บูรณะมาปีกว่า ตั้งแต่ปี 2563 ก็ยังทำไม่เสร็จ เพราะขาดเงินซื้อวัสดุ ส่วนงานก่อสร้างพระทำกันเอง จะจ้างคนงานแค่คนเดียว ได้เงินบริจาคมาก็เอามาซื้อข้าวให้หมากินหมด ใครอยากช่วยวัดก็มาที่วัดนะคะ ปีนี้ 2565 แล้ว งานก่อสร้างก็ยังไม่คืบหน้าเท่าไรเลย

สมัยก่อนเราเคยมาบวชเนกขัมมะที่นี่ จำได้ว่าเรากับแม่ชีนอนอยู่ที่ศาลา ซึ่งร่างของหลวงพ่ออยู่ในโลงแก้ว ถามว่าทำไมต้องนอนที่นี่ก็เพราะวัดนี้ไม่มีสิ่งปลูกสร้างมากมายเหมือนวัดอื่น วัดจนๆ ธรรมดาวันนึง ที่นอนสำหรับแม่ชีคือศาลาที่วางโลงแก้วของหลวงพ่อ ตอนเช้ามืดแม่ชีปลุกให้ตื่น เราก็งัวเงียๆ แม่ชีท่านพูดว่า ตื่นเร็วๆ เก๋ หลวงพ่อบุญช่วยไม่ชอบคนนอนตื่นสาย เราก็นั่งตาปรือๆ ยังไม่ยอมลุก สักพักไฟกระพริบทั้งศาลา รีบตื่นทันทีเลย เก็บที่นอนเสร็จ ไฟหยุดกระพริบ แต่ตอนนี้ศาลานั้นใช้เป็นที่เก็บของแทน เพราะมีผู้ใจบุญมาสร้างศาลาใหม่ให้กับหลวงพ่อ

อ่านมาถึงตรงนี้ ถ้าใครพอ มีเงินหรืออาหารให้หมาแมว ก็แบ่งไปช่วยวัดบ้างนะคะ ความเมตตานั้นมันอยู่ในใจของใคร มันก็ทำให้ใจของคนนั้นร่มเย็น สิ่งที่เราเป็นกังวลในตอนนี้คือ ถ้าวันใดไม่มีหลวงน้า (เจ้าอาวาสรูปปัจจุบัน) ใครจะมารับผิดชอบดูแลหมาแมวร้อยกว่าชีวิต 


หมายเหตุ วันที่ 18 มี.ค. 2564 ทางวัดได้มีการจัดพิธีไหว้ครู ซึ่งปกติจะจัดทุกปี แต่เนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด ทางวัดจึงไม่ได้ประกาศให้คนภายนอกทราบ ดังนั้นพิธีไหว้ครูจึงค่อนข้างเงียบเหงา 

โดยช่วงเช้าจะมีพิธีบวงสรวง จัดของไหว้กลางแจ้ง ส่วนช่วงบ่ายจะมีพิธีครอบครูเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ผู้ที่มาร่วมงาน ปีหน้าหากสถานการณ์ดีขึ้น เพื่อนๆ สามารถมาร่วมงานได้นะคะ แต่จะเป็นวันที่เท่าไรนั้น ต้องรอทางวัดแจ้งอีกที