at the back of the ordination hall

the white wall surrounds the ordination hall

Tripitaka hall (Scripture Hall) 

The Buddha inside is believed to bring luck, money and prosperity to you

Prang tower enshrines holy relics of the Buddha

the boundary stone

a set of 28 Buddha amulets


Buddha statues for sale

Wat Apsorn Sawan

Update : March 29, 2023

Wat Apsorn Sawan is a small temple, that has long been overlooked by travellers, because of its location. It's sandwiched between two hot spots like Wat Khun Chan and Wat Paknam Phasi Charoen that is often called Wat Paknam.

The three temples as mentioned above are connected by a busy alley in Wat Paknam. The short alley leads to a T-junction, Wat Apsorn Sawan is on the right and Wat Khun Chan is on the left very close to a small bridge.

When it comes to the principal Buddha statue in Buddhist temples, each temple will enshrine only one Buddha statue as the principal Buddha in the ordination hall. 

But this unusual temple has up to 28 principal Buddha, all of which represent the Buddhas in different eras. The 28 principal Buddha statues are the same size and posture (Subduing mara posture).

The ordination hall and a nearby building (Viharn) were built in Chinese style. If you look at the pediment of the two buildings, you will see a Chinese symbol called Yin-Yang. Yin-Yang is a circle divided into two halves - one half of the circle is black and the other is white. 

Another thing that will surprise you a lot is a beautiful wooden Tripitaka hall from the Ayutthaya period, that has survived the test of time. It's in very good condition because of careful maintenance. This temple was declared a national historic site by the Fine Arts Dept. in 1977.

According to historical records, it's a third-rank royal temple in the Ayutthaya period, previously known as Wat Moo (Mood means pig), because the area used to be a pig farm. 

Later, the temple was restored during the reign of King Rama 3. After restoration, the temple was renamed "Wat Apsorn Sawan" in honour of Royal Concubine Noi who restored the temple. At that time, the king gave an old Buddha statue named Luang Pho Chansamor to the temple. LP Chansamor was brought from Vientiane, so it's greatly revered by Lao people.

LP Chansamor has been kept in a secret room in the temple, but it's taken outside during Songkran festival (a three-day period from 13-15 April every year) to let visitors pour water over the statue.

The sermon hall is being restored to its original condition, with the goal of preserving its cultural value. You can support the temple to restore it by buying amulets or Buddha statues. If you want to get a set of 28 Buddha amulets, there are two sizes of boxes - the big one costs 6,000 baht (USD182), and the small one costs 3,000 baht (USD 108).

วัดอัปสรสวรรค์ (วัดหมู)

เป็นอีกวัดนึงที่น่าสนใจอย่างมาก แต่มักจะถูกมองข้ามเสมอ เปรียบเสมือนลูกเมียน้อยเลย เพราะวัดตั้งอยู่กึ่งกลางระหว่างวัดสองวัดที่มีชื่อเสียง ได้แก่ วัดปากน้ำภาษีเจริญ และวัดขุนจันทร์ 

การเดินทางมาที่นี่ก็ง่ายมาก ในวัดปากน้ำภาษีเจริญ จะมีตรอกเล็กๆ ที่มีแม่ค้าขายน้ำดื่ม น้ำมะพร้าว ตรอกนี้จะเป็นทางเดินเชื่อมไปยังวัดอัปสรสวรรค์ และวัดขุนจันทร์ แม้ว่าจะเป็นตรอกเล็กๆ แต่ไม่น่ากลัวนะ เดินแค่ 3-4 นาทีเอง เมื่อผ่านตรอกนั้นมา ขวามือคือวัดอัปสรสวรรค์ ส่วนซ้ายมือจะมีสะพานข้ามไปยังวัดขุนจันทร์

สิ่งที่แปลกมากสำหรับวัดนี้ คือ ที่นี่มีพระประธานในอุโบสถถึง 28 องค์ บนฐานชุกชี เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ขนาดเท่ากันทั้งหมด ซึ่งเราไม่เคยพบเจอที่ไหนมาก่อน วัดนี้สวยงาม ค่อนข้างสงบ ด้านข้างอุโบสถมีวิหารด้วยนะ แต่ปกติจะปิด อุโบสถและวิหารเป็นศิลปะจีน โดยเลียนแบบวัดราชโอรสาราม

ไม่ไกลกันนัก เราจะเห็นหอไตรศิลปะสมัยอยุธยาตั้งอยู่กลางน้ำ ถือว่าเป็นหอไตรที่อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์มาก และคงความงดงาม นอกจากนี้ยังมีพระปรางค์สีขาวที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ 

วัดนี้เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดวรวิหาร สร้างในสมัยอยุธยา เดิมชื่อ "วัดหมู" เล่ากันว่าจีนอู๋เป็นผู้สร้างวัดบนที่ดินที่เคยใช้เลี้ยงหมูมาก่อน เมื่อสร้างเสร็จ ก็มีหมูมาเดินเพ่นพ่านเป็นจำนวนมาก ชาวบ้านจึงเรียกว่าวัดหมู

เจ้าจอมน้อย (สุหรานากง)ได้ปฏิสังขรณ์วัดนี้ เพราะเห็นว่าวัดทรุดโทรมมาก เมื่อปฏิสังขรณ์เสร็จ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานนามว่า วัดอัปสรสวรรค์ เพื่อเป็นที่ระลึกแด่เจ้าจอมน้อย ซึ่งมีความสามารถในการแสดงละครเรื่องอิเหนา 

และพระองค์ยังได้พระราชทานพระพุทธรูปปางฉันสมอ (หลวงพ่อสมอ) ให้กับทางวัด ซึ่งเป็นพระพุทธรูปเก่าแก่มาจากเมืองเวียงจันทร์ แต่เดิมนั้นประดิษฐานในวิหารพระนาก วัดพระแก้ว ดังนั้นคนหลวงพระบาง และคนเวียงจันทร์ จึงเคารพหลวงพ่อสมอมาก และมักจะมากราบขอพรท่านอยู่บ่อยครั้ง

ทางวัดได้ประดิษฐานหลวงพ่อไว้ในห้องลับของทางวัด และจะนำออกมาให้ประชาชนทั่วไปได้สรงน้ำเพียงปีละครั้งเท่านั้นในช่วงวันสงกรานต์  13-15 เมษายน 

ขณะนี้ทางวัดจะทำการบูรณะ ซ่อมแซมศาลาการเปรียญ ซึ่งยังขาดปัจจัยจำนวนมาก สำหรับท่านใดที่สนใจอยากร่วมบุญ ก็โอนไปที่ ธนาคารกรุงเทพ / เลขที่บัญชี 115-4214926 / ชื่อบัญชี วัดอัปสรสวรรค์วรวิหาร 

แต่ถ้าใครอยากช่วยวัดด้วยการเช่าวัตถุมงคล ที่นี่มีพระหลายแบบให้เช่า เช่น พระประธาน 28 ตามรูปด้านบนอยู่ในกล่องกระจกใส ซึ่งมี 2 ขนาด ขนาดเล็ก 3,500 บาท ส่วนขนาดใหญ่ 6,000 บาท


พระพุทธรูปทั้ง 28 องค์ ได้แก่

พระพุทธตัณหังกร พระพุทธเมธังกร พระพุทธสรณังกร พระพุทธทีปังกร พระพุทธโกณฑัญญะ พระพุทธสุมังคละ พระพุทธสุมนะ พระพุทธเรวตะ พระพุทธโสภิตะ พระพุทธอโนมทัสสี พระพุทธปทุมะ พระพุทธนารทะ พระพุทธปทุมุตตระ พระพุทธสุเมธะ พระพุทธสุชาตะ พระพุทธปิยทัสสี พระพุทธอัตถทัสสี พระพุทธธรรมทัสสี พระพุทธสิทธัตถะ พระพุทธติสสะ พระพุทธปุสสะ พระพุทธวิปัสสี พระพุทธสิขี พระพุทธเวสสภู พระพุทธกกุสันธะ พระพุทธโกนาคมนะ พระพุทธกัสสปะ และพระพุทธโคตมะ 

พระองค์แรก ที่อยู่ตรงกลางด้านบนสุด คือ พระพุทธตัณหังกร และ องค์สุดท้าย ที่อยู่ตรงกลางด้านล่างสุด คือ พระพุทธโคดม 


พระพุทธรูป 28 องค์ คือตัวแทนของพระพุทธเจ้าที่เกิดมาแล้ว ในภพชาติต่างๆ โดยแบ่งเป็น 3 กลุ่ม ดังนี้

1.พระพุทธเจ้า 24 องค์ คือ พระพุทธเจ้าที่ได้พบพระพุทธเจ้าศากยมุนีในขณะที่ยังเป็นพระโพธิสัตว์ และมีพุทธพยากรณ์ว่าพระองค์จะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าอย่างแน่นอน เริ่มจากพระพุทธทีปังกร จนถึง พระพุทธเจ้ากัสสปะ

2.พระพุทธเจ้า 3 องค์ คือ พระพุทธเจ้าที่อยู่ร่วมสารมัณฑกัลป์กับพระพุทธเจ้าทีปังกร ที่ให้พุทธพยากรณ์กับพระพุทธเจ้าศากยมุนี ประกอบด้วย พระพุทธเจ้าตัณหังกร พระพุทธเจ้าเมธังกร และพระพุทธเจ้าสรณังกร 

3.พระพุทธเจ้าองค์สุดท้าย มีเพียงองค์เดียว คือ พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน คือ พระพุทธเจ้าศากยมุนี (พระสมณโคดม)