It's viharn Phra Mongkon Bophit

The big Buddha is named Phra Mongkon Bophit

broken Buddha statues in the temple compound 

Thai cotton candy is rolled in a soft dough sheet  

Viharn Phra Mongkon Bophit

Update :  August 29, 2023

It's called viharn, not temple. Viharn is a building with Buddha statues, that looks like the ordination hall. But the ordination hall is surrounded by boundary stones, but viharn is not. And there can be more than one viharn in a temple. 

Viharn is next door to Wat Phra Si Sanphet. The temple will be on the right when you look toward the viharn, while a souvenir market will be on the left. This viharn enshrines the famous Buddha statue named "Phra Mongkon Bophit", so this viharn is named after the Buddha's name. 

If you're planning a trip to Ayutthaya, this is another place you should visit because it does't take too long to explore it, except for ones who love shopping. 

As I said above, there is a souvenir market in the temple compound. The market offers most of the traditional stuff and everything you want, ranging from crispy fish skins, many types of dips, pickled fruits, Thai cotton candy, to key chains, fans, bags. Moreover, there are many restaurants selling thai food.

But the province's well known one is Thai cotton candy, known as Roti Saimai. Almost 95% of visitors buy it after a visit to Ayutthaya. So, cotton candy can be found almost everywhere in this province. 

The cotton candy comes in different colours, rolled in a soft dough sheet - it's a perfect combination of sweet cotton candy and a salt dough sheet. You must try.

Back at the viharn, there is the big Buddha statue inside, that is always the center of attraction here. If you walk around the base of the big Buddha statue, you will see historical photos when the viharn was destroyed and how the Buddha statue looked before being restored.


History of the big Buddha statue

This viharn enshrines the big Buddha statue, named "Phra Mongkon Bophit. The core of the Buddha was made of bricks, while the outer surface was covered with bronze plates. It's 12.45 meters high and 9.55 meters wide.

This Buddha statue is believed to be built in the early Ayutthaya period, and stood in the open air outside the palace. Later, during the 15th century, king Songtham wanted to build a royal crematorium in the area where the Buddha was originally enshried.

So, the Buddha statue was moved from the east side to the west side of the palace, that is its current location. And the king ordered to build a mondop to cover the Buddha statue. 

Unfortunately, the mondop had been hit by lightning and undergone restorations by different kings until the reign of King Boromakot. 

The mondop was lightning again during the reign of King Boromakot, so the king decided to transform it into the great viharn as we see today. And the viharn has never been struck by lightning since then.

However, the viharn was destroyed during the fall of the Ayutthaya kingdom. The upper part of the viharn collapsed and fell onto the Buddha statue, breaking its head and right arm. Later, the Buddha statue and the viharn were restored by King Rama 5 of the present Chakri Dynasty. 

In 1957, the Fine Arts Dept. restored the Buddha statue and discovered lots of small Buddha statues inside. Today, all of them are kept in Chao Sam Phraya National Museum.

วิหารพระมงคลบพิตร

สถานที่แห่งนี้ เรียกว่า "วิหาร" นะคะ ไม่ใช่วัด ตั้งอยู่ติดกับกำแพง วัดพระศรีสรรเพชญ์ ซึ่งวิหารนี้ประดิษฐานพระพุทธรูป นามว่า "พระมงคลบพิตร" 

เมื่อเรามองไปยังด้านหน้าวิหาร ด้านขวามือจะเป็นวัดพระศรีสรรเพชญ์ ส่วนด้านซ้ายมือจะมีสระน้ำ และมี ตลาดขายของกิน ของฝาก ซึ่งปัจจุบันตลาดจะอยู่หลบมุมนิดนึง แต่ก็ยังอยู่ในบริเวณวัดเหมือนเดิม

ตลาดนี้จะขายของหลากหลาย เช่น โรตีสายไหม ซึ่งแม่ค้าก็จะทำแผ่นแป้งโรตีให้ดูกันที่หน้าร้านเลย ราคาถูกด้วยนะ นอกจากนี้ยังมีหนังปลาทอดกรอบ น้ำพริก ผลไม้ดอง ไปจนถึงพวงกุญแจ พัด กระเป๋า แม่เหล็กติดตู้เย็น ฯลฯ 

สำหรับใครที่หิวข้าว ก็มาที่ตลาดนี้เลย มีร้านก๋วยเตี๋ยว ร้านอาหารตามสั่งหลายร้าน ราคาไม่แพง แต่อากาศจะร้อนหน่อยตอนกลางวัน เมื่ออิ่มแล้ว ก็ไปเดินไปกราบขอพรพระมงคลบพิตรในวิหาร ซึ่งองค์พระขนาดใหญ่มาก ส่วนบริเวณรอบฐานพระก็จะมีพระพุทธรูปเก่า ภาพเก่าของวิหารแห่งนี้เมื่อครั้งที่ถูกพม่าเผาทำลาย และวัตถุมงคลให้เช่าบูชา

ประวัติพระมงคลบพิตร

  วิหารนี้ประดิษฐานพระพุทธรูป นามว่า "พระมงคลบพิตร" เป็นพระพุทธรูปก่ออิฐถือปูน หุ้มด้วยแผ่นสำริด ซึ่งเราเรียกว่า หุ้มแผง ความสูง 12.45 เมตร 

สันนิษฐานว่าองค์พระถูกสร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้น และประดิษฐานทางด้านทิศตะวันออก นอกกำแพงพระราชวัง แต่ต่อมาองค์พระได้ถูกย้ายไปทางตะวันตกในสมัยพระเจ้าทรงธรรม เพราะพระองค์ต้องการจะใช้พื้นที่ตรงนั้นสร้างเมรุให้กับกษัตริย์ในสมัยอยุธยาตอนปลาย 

เมื่อองค์พระถูกย้ายไปอีกที่ พระเจ้าทรงธรรมก็ให้สร้างมณฑปครอบองค์พระ แต่ต่อมาถูกฟ้าผ่า พระเจ้าทรงธรรมก็ให้ทำการบูรณะใหม่ ต่อมาในสมัยพระเจ้าเสือ และพระเจ้าบรมโกศ ฟ้าก็ผ่าอีก ก็บูรณะอีก ในที่สุดพระเจ้าบรมโกศก็ทรงซ่อมแซมใหม่ และให้เปลี่ยนจาก มณฑปเป็นวิหารขนาดใหญ่

อย่างไรก็ตาม หลังจากเสียกรุงครั้งที่ 2 วิหารมงคลบพิตรก็ถูกทำลาย ทำให้อิฐด้านบนของวิหารหล่นลงมาทับองค์พระ ทำให้คอและแขนขององค์พระได้รับความเสียหาย ต่อมา ร.5 ได้มาซ่อมแซมโดยการต่อแขน และเศียรพระใหม่

ในปี พ.ศ.2500 นายกรัฐมนตรีของพม่าได้เดินทางมาที่อยุธยา และเมื่อได้เห็นวิหาร ก็เกิดความรู้สึกผิดที่ครั้งนึงประเทศพม่าเคยมาทำลายวัดในประเทศไทย เขาจึงได้บริจาคเงินร่วมกับเงินของรัฐบาลไทย สร้างวิหารหลังใหม่ขึ้นมาแทน โดยเลียนแบบหลังเดิมในสมัยพระเจ้าบรมโกศ 

และในปีเดียวกันนั้นได้มีการบูรณะองค์พระด้วย ซึ่งทางกรมศิลปากรได้ พบพระพุทธรูปองค์เล็กจำนวนมากถูกบรรจุในองค์พระ ปัจจุบันพระที่ถูกค้นพบถูกเก็บรักษาไว้ที่ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเจ้าสามพระยา และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติจันทรเกษม