The ordination hall

The principal Buddha statue in the ordination hall

Two Buddha statues are called LP Sri and LP Tham

Nuns' residence

a massage room in a temple compound

Siamese Fireback is called Gaipha Phrayalo

Wat Klang Thakham

Update : Septemper 13, 2022

Temple is located in Thakham sub-district, 12 from downtown of Singburi. The temple was once the centre for transportation, that is why villagers call Wat Klang Thakham. The word "Klang" means centre, and "Thakham" means a place where you can take a boat to the other side of the river.

In 1900, King Rama 5 travelled to Singburi by boat and stayed overnight at Wat Klang Thakham. At that time, Luang Pho Puean who was the abbot, had the chance to talk with the king. After that day, they became good friends.

A year later, LP Puean was invited to King Rama 5's palace. The king heard that LP Puean had a hard time travelling to receive alms or accepting an invitation, especially in remote areas, so the king gave him a boat.

Several years later, he was invited to attend the funeral ceremony of King Rama5's son, and received eight necessities of a monk from the king.

Today, everything that was given by the king is kept in a museum inside the temple. However, it's still closed for renovation, expected to be open to the public in the near future.

Apart from the museum, there are also cute animals in the temple like peacooks, Siamese Firebacks (Gaipha Phrayalo) and auinea fowls. Most of the animals are in cages, except auinea fowls. I believe that once your children see these animals, it will surely bring smiles to their faces.

Behind the animal cages is a massage room. Thai massage costs 150 baht/hour ($5).

วัดกลางท่าข้าม

วัดนี้ตั้งอยู่ ต.ท่าข้าม อ.ค่ายบางระจัน ห่างจากตัวเมืองสิงห์บุรี 12 กม ในอดีตวัดนี้เป็นศูนย์กลางการคมนาคมทั้งการเดินทางด้วยเรือหรือรถ ด้วยเหตุนี้ชาวบ้านจึงเรียกวัดนี้ว่า วัดกลางท่าข้าม

ในอดีต ราวปี พ.ศ.2443 ร.5 ได้เสด็จทางเรือมาพักค้างแรมที่วัดนี้ ดังนั้นจึงได้รู้จักกับหลวงพ่อเพื่อนและได้เป็นสหายกันนับแต่นั้นมา ต่อมาในปี พ.ศ.2444 หลวงพ่อเพื่อนได้รับกิจนิมนต์ให้เข้าวัง ซึ่งในครั้งนั้น ร.5 เห็นว่าหลวงพ่อเพื่อนได้รับความลำบากในการบิณฑบาตร ท่านจึงได้พระราชทานเรือสัมปันให้กับหลวงพ่อเพื่อน

ต่อมาในปี พ.ศ.2452 หลวงพ่อได้รับกิจนิมนต์ให้ไปร่วมงานพระศพของกรมหลวงอุรุพงษ์รัฐสมโภช ซึ่งเป็นโอรสของ ร.5 ซึ่งในครั้งนั้น ร.5 ก็ได้ถวายเครื่องอัฐบริขารให้ท่านอีกจำนวนนึง

ปัจจุบันนี้เรือและเครื่องอัฐบริขารทั้งหมดถูกเก็บไว้ในพิพิธภัณฑ์ของวัด แต่วัดกำลังปรับปรุงพิพิธภัณฑ์ใหม่ ซึ่งคาดว่าน่าจะเสร็จในเร็ววันนี้

สิ่งที่แปลกสำหรับวัดนี้ คือ สัตว์เลี้ยงในวัด ที่ไม่ใช่หมาแมว แต่เป็นสัตว์ปีก เช่น ไก่ต๊อก ไก่ฟ้าพระยาลอ นกยูง ฯลฯ โดยเฉพาะไก่ฟ้าพระยาลอ ซึ่งหาชมได้ยากในสมัยนี้ ไก่ตัวนี้ค่อนข้างดุ โหด! ใครที่เอามือเข้าไปใกล้กรงก็อาจโดนงับนิ้วได้

ส่วนภายในอุโบสถ มีพระประธานซึ่งประดิษฐานบนแท่นสูง สวยงามไม่แพ้วัดอื่นเลย แต่ปกติทางวัดจะปิดอุโบสถ ดังนั้นถ้าเพื่อนๆ มาที่นี่ก็สามารถไปกราบหลวงพ่อศรีและหลวงพ่อธรรมที่วิหารฝั่งตรงข้ามอุโบสถได้

ส่วนศาลาเรือนไทยที่เห็นในรูป นั่นคือที่พักของคนที่มีบวชเนกขัมมะ และไม่ไกลกันคือห้องนวด ซึ่งนวดโดยคนพิการ ราคา 150 บาท/ชั่วโมง