The ordination hall in the middle of the pond
inside the ordination hall
Buddha statue is covered by a nine-headed naga snake
two snakes run parallel to each other
Chinese shrine
Hermit statue is made of rice grain
Thai hermit statues
Buddha statues are enshrined near the stone museum
lots of statues in a room, near the stone museum
Ban Chiang pottery
Wat Budda
Update : August 1, 2022
Wat Budda is located 6 km from the town of Singburi, toward Bangrachan district, just about 400M from the main road to the temple.
The temple greets you with "The big seated Buddha statue covered by a nine-headed naga snake", which can be seen from a long distance. And another exquisite statue is "Guan Yin" or the Chinese goddess of mercy. This temple is the perfect mix of Thai and Chinese architectural styles.
The first thing you will see when you walk into the temple compound is the Chinese shrine. The shrine contains lots of Chinese statues - it seems like you're walking into the land of Chinese deities.
The shrine is decorated with many dragon statues - some dragons hold columns, whereas some dragons spray water on the roof. When you look up at the ceiling, you will be surprised by paintings. It's one of the paintings I like most, but it might not be the same as yours. Behind the Chinese shrine is the Guan Yin statue and a garden.
After visiting the land of Chinese deities, you then walk to the land of the Buddha. You will see two golden naga snake statues, that run parallel to each other to the stone museum.
Near the entrance door of the stone museum, there are Buddha statues made of different materials like jade, wood, stone, rice grain or even petrified stone (wood turned into stone).
The stone museum displays Ban Chiang potteries, Buddha statues and a fascinating collection of stone beads. Thousands of natural stone beads strung on threads come from many countries.
วัดบุดดา
วัดนี้ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 6 กม. โดยขับรถมุ่งหน้าไปยัง อ.บางระจัน ตลอดข้างทางเพื่อนๆ จะได้ สัมผัสบรรยากาศทุ่งนาโดยแท้จริง แวะจอดรถถ่ายรูปข้างทางก็ได้นะ ฟินไปอีกแบบ แต่ก่อนจะมาถึงวัดนี้ เพื่อนๆ จะขับผ่าน วัดยวด ก็แวะจอดรถไปกราบหลวงพ่อสองพี่น้องในวิหารได้ค่ะ วัดยวดตั้งอยู่ติดถนนใหญ่ ตรงหัวโค้งถนน
ถ้าอยากเที่ยวให้สนุก เพื่อนๆ ควรตื่นเช้าหน่อยนะคะ เพราะบรรยากาศทุ่งนายามบ่ายนี่ไม่ได้งดงามตามจินตนาการนะ มีปาดเหงื่อแน่นอน
วัดนี้สร้างโดย พระอธิการศุภรัตน์ ฐิตธมฺมปาโล (หลวงเตี่ย) ซึ่งท่านเป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่บุดดา ถาวโร อดีตเจ้าอาวาส วัดกลางชูศรีเจริญสุข จ.สิงห์บุรี
สิ่งนึงที่โดดเด่น จนสามารถดึงดูดผู้คนเข้ามาที่วัดนี้คือ พระนาคปรกขนาดใหญ่ ที่ตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางทุ่งนา เมื่อเลี้ยวรถจากถนนใหญ่เข้ามา ก็จะพบศาลเจ้าจีน ซึ่งคนบางส่วนก็มาเพื่อไห้วพระขอพร แต่บางส่วนก็มาแก้ปีชง ถ้าจะมาแก้ปีชงให้มาก่อน 15.00 น. แต่ช่วงโควิดให้โทรติดต่อแม่ชีก่อน ตามเบอร์ 084-559-4929
ข้างศาลเจ้าจีน คือสวนหย่อมที่มีน้ำตกขนาดเล็กๆ ใกล้กับสะพานไม้ และที่มีนั่งพักผ่อน ที่แห่งนี้เป็นเหมือน ดินแดนของเทพเจ้าจีน มีเจ้าแม่กวนอิมองค์ใหญ่ รูปปั้นมังกรมากมาย แต่ที่เราชอบที่สุดคือ ภาพวาดบนเพดานของศาลเจ้า ซึ่งตั้งอยู่หน้ารูปปั้นเจ้าแม่กวนอิม สวยงามเกินคำบรรยายจริงๆ โดยส่วนตัวแล้วเราชอบมังกรนะ เพราะเรามักจะฝันเห็นมังกรอยู่บ่อยๆ
เดินเข้าไปด้านในอีกนิด เราจะพบรูปปั้นพญานาคสีทอง มีลำตัวยาวขนานไปกับถนน ด้านหลังพญานาคคือ พิพิธภัณฑ์หิน ที่ไม่ได้มีแค่หิน ยังมีเครื่องปั้นดินเผายุคบ้านเชียง ใบเราชอบมากที่สุดคือใบที่มีมังกรพันล้อมรอบ หลวงเตี่ยเมตตาเล่าให้ฟังว่า ท่านให้คนนำเศษเครื่องปั้นดินเผา-ของยุคบ้านเชียงที่แตกๆ มาต่อกันจนกลายเป็นใบนี้
นอกจากนี้ยังมีหินขนาดเล็กๆ อีกหลายแบบ โดยหินบางส่วนมาจากต่างประเทศ ท่านก็นำมาร้อยไว้ คล้ายผ้าม่าน ความยาวเป็นสิบกิโลเลย แล้วมีของเก่าโบราณในตู้อีกมากมาย ส่วนด้านหน้าพิพิธภัณฑ์หิน ก็มีหินบางส่วนมาจากถ้ำ บางส่วนก็คือไม้ที่กลายเป็นหิน
นอกจากนี้ยังมีพระพุทธรูปกับฤาษี ที่ปั้นโดยใช้เม็ดข้าวสาร หลวงเตี่ยท่านบอกว่าของเก่าพวกนี้จะเก็บไว้ให้ลูกหลานดู มีคนมาขอซื้อเป็นแสนเป็นล้าน ท่านก็ไม่ขาย
จากนั้นขับรถไปที่ อุโบสถกลางน้ำ ซึ่งจะต้องขับผ่านพระพุทธรูปนาคปรกองค์ใหญ่ และตึกแถว (ซึ่งเป็นบ้านพักคนงาน) ไปอีกหน่อย เราจึงจะพบอุโบสถกลางน้ำ
เอาล่ะ ถึงเวลาเก็บกระเป๋าเตรียมออกเดินทางมาเที่ยวสิงห์บุรีกันแล้ว พร้อมยัง มาสิคะ (^.^)